วันที่ 14 พ.ย.เวลา 14.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) : พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.ภูมิทัศ ปิติจิระนน สว.กก.3 บก.ป.,ร.ต.อ.หญิง กัญจิรา นรสาร และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวัชรพล สังข์ทอง อายุ 36 ปี ชาวจ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 142/2562 ลง 12 ก.ย.62 ข้อหา ยักยอกทรัพย์,นายสิทธิพงษ์ บุญประกอบ อายุ 38 ปี ชาว จ.ชลบุรี และน.ส.สุทาวัน มหานาม อายุ 43 ปี ชาว จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อต่างๆจำนวนรวม 8 คัน โดยจับกุมนายวัชรพลฯ ได้ที่หน้าบ้านเลข 22/24 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี ส่วน นายสิทธิพงษ์ฯ และน.ส.สุทาวันฯ ถูกจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.สุรพงษ์ฯ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากทางตำรวจกองปราบฯ ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 16 คน จากหลายพื้นที่ ทั้ง กทม.และปริมณฑล ว่าถูก นายวัชรพลฯ หลอกทำทีมาติดต่อขอเช่ารถยนต์ และหลอกขอซื้อดาวน์รถต่อจากผู้เสียหาย โดยอ้างว่าจะดำเนินการเปลี่ยนสัญญา และจะผ่อนชำระค่างวดต่อ แต่เมื่อได้รถไปแล้วนายวัชรพลฯ นำรถหนีหายไป ที่ผ่านมามีผู้เสียหายถูกนายวัชรพลฯ หลอกเชิดรถไปแล้วจำนวน 18 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า18 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังรับเรื่องทางกองปราบฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่ามีรถยนต์ของผู้เสียหายจำนวน 3 คัน ถูกจอดติดป้ายประกาศขายอยู่ที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ กระทั่งพบนายสิทธิพงษ์ฯ และน.ส.สุทาวันฯ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครอง และเป็นผู้ขายรถ จึงได้ทำการจับกุมตัวดังกล่าว
พ.ต.อ.สุรพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า ภายหลังจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 2 คนแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขยายผลต่อเนื่องไปทำการจับกุมตัว นายวัชรพลฯ ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมกับนำหมายศาลเข้าตรวจค้นเต็นท์รถ จำนวน 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.บ้านบึง และ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าน่าจะถูกใช้เป็นสถานที่เก็บรถที่ได้มาจากการก่อเหตุ โดยจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัยไม่มีเอกสารการครอบครองจำนวน 5 คัน จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด
ทั้งนี้จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ ว่าได้มีการหลอกลวงซื้อดาวน์และเช่ารถ จากผู้เสียหายเพื่อนำไปขายต่อจริง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับแก่ นายวัชรพลฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส่วนนายสิทธิพงษ์ฯ และน.ส.สุทาวันฯ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันยักยอกทรัพย์ หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สุรพงษ์ฯ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า อยากฝากเตือนประชาชนว่าการทำสัญญาโอนลอยกรรมสิทธิ์ หรือทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กันเอง ไม่สามารถกระทำได้ เพราะตามกฎหมายผู้เช่าซื้อมีสิทธิในการครอบครอง และใช้งานเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง จนกว่าจะชำระเงินครบตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่มีสิทธิในการโอน หรือขายรถให้ผู้อื่น ถ้าหากขายดาวน์ หรือโอนรถให้ผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท ไฟแนนซ์ อาจตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เสียเองด้วย ดังนั้นหากท่านมีความต้องการที่จะขายดาวน์รถมือสอง ควรพาผู้ที่ซื้อไปทำการเปลี่ยนคู่สัญญากับไฟแนนซ์ให้ถูกต้องเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน