ชายอายุ 26 ปีรายนี้ระบุว่า เขาต้องการให้ผู้พิการทุกคน “หายไป” ให้หมดหลังจากอาละวาดใช้มีดโจมตีเหยื่อหลายคนจนจมกองเลือดรวมถึงบางคนซึ่งถูกแทงเข้าที่คอ
ซาโตชิ อูเอมัตสึ ซึ่งถูกคลุมหัวด้วยเสื้อแจ็กเกตสีฟ้าถูกคุมตัวออกจากสถานีตำรวจเข้าสู่รถตู้คันหนึ่งที่จอดรออยู่ก่อนที่จะถูกกล้องโทรทัศน์รุมถ่าย
ภายในรถตู้คันนี้เขาถูกถอดเสื้อคลุมหัวออกและหันมายิ้มกว้างซึ่งปรากฏให้เห็นในภาพที่ออกอากาศในรายการข่าวตอนเช้า
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่สถานีตำรวจสึคุอิซึ่งอูเอมัตสึถูกจับหลังจากก่อเหตุปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสืบสวน ยืนยันเพียงว่าเขากำลังถูกส่งตัวไปให้คณะอัยการสอบปากคำ
อูเอมัตสึถูกกล่าวหาว่าบุกเข้าไปในศูนย์ดูแลผู้พิการ สึคุอิ ยามายูริ-เอ็น ในเนินเขากลางป่าของเมืองซากะมิฮาระนอกกรุงโตเกียวเมื่อช่วงเช้ามืดของวันอังคาร (26)
รายงานระบุว่า เขามัดผู้ดูแล 2 คนก่อนที่จะบุกจ้วงแทงผู้พักอาศัย ทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 26 คน ในจำนวนนี้ 13 คนอาการสาหัส
หลังจากนั้นเขาก็เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจโดยทันที พร้อมกับถือมีดเปื้อนเลือดและยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า “ผมทำเอง” และเขายังกล่าวด้วยว่า “คนพิการควรหายไปให้หมด”
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถ่ายใกล้กับศูนย์ดังกล่าวเผยให้เห็นรถยนต์คันหนึ่งมาถึงที่นั่นไม่นานก่อนที่การโจมตีจะเริ่มขึ้น คนขับเปิดกระโปรงหลังรถเพื่อหยิบสิ่งของก่อนที่จะเดินเข้าไปยังศูนย์แห่งนี้
เมื่อเวลาราว 02.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไม่นานหลังจากที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากศูนย์นี้ ภาพจากกล้องเผยให้เห็นคนขับวิ่งกลับมายังรถยนต์คันนี้ขณะที่ในมือขวาถือกระเป๋าขนาดใหญ่ใบหนึ่ง
อูเอมัตสึออกจากงานที่ศูนย์แห่งนี้และถูกบังคับให้เข้ารับการรักษาในเดือนกุมภาพันธ์หลังจากที่บอกกับเพื่อนร่วมงานว่าเขาอยากที่จะฆ่าผู้พิการที่ศูนย์แห่งนี้ แต่เขาถูกปล่อยตัวหลังจากนั้นเมื่อแพทย์พิจารณาว่าเขาไม่ได้เป็นภัยคุกคาม
ก่อนหน้านี้เขาเคยส่งจดหมายถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเขาขู่ว่าจะสังหารคนพิการหลายร้อยคน โดยร่างแผนคร่าวๆ ว่าจะโจมตีศูนย์สึคุอิ ยามายูริ-เอ็น และศูนย์อีกแห่งหนึ่งในตอนกลางคืน
ในจดหมายดังกล่าวเขาได้เสนอมุมมองของสังคมซึ่งผู้พิการสามารถถูกการุณยฆาตได้ด้วยความเห็นชอบของสมาชิกครอบครัว เนื่องจาก “คนพิการรังแต่จะสร้างความทุกข์ให้”