โฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทยแถลงปฏิเสธ ยันเจรจามา 11 ครั้ง จีนไม่เคยขอใช้สิทธิประโยชน์ในการพัฒนาที่ดินบริเวณสองข้างทางตามเส้นทางโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีนเลย ชี้ยิ่งไทยจะลงทุนเอง 100% ยิ่งไม่มีเหตุผลที่จีนจะเสนอเรื่องนี้
จากกรณีที่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2559 กระทรวงคมนาคมของไทย โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือระดับทวิภาคีเรื่องรถไฟไทย-จีน ระหว่างรัฐบาลจีนและไทย เมื่อ 22-24 มีนาคม 2559 ได้ข้อสรุปว่า โครงการดังกล่าวจะก่อสร้างเพียง เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา เท่านั้น พร้อมกับยกระดับให้เป็นรถไฟความเร็วสูง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อขนส่งคนเป็นหลัก จากเดิมที่จะก่อสร้างที่ระดับความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อขนส่งทั้งคนและสินค้า ขณะที่เส้นทางอื่น ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-มาบตาพุด, นครราชสีมา-หนองคาย จะเลื่อนออกไปจนกว่าจะมีความพร้อม ทั้งนี้ ในการลงทุนดังกล่าวฝ่ายไทยยังจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด โดยฝ่ายไทยซื้อเทคโนโลยีและซื้อรถไฟจากจีน สำหรับในเฟสแรกจะแบ่งช่วงการก่อสร้าง ช่วงแรกกลางดง-ปากอโศกระยะทางราว 3.5 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมายังข่าวลือเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวทำให้ในวันนี้ (25 ก.ค.) ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยปฏิเสธว่า ฝ่ายจีนไม่เคยมีข้อเสนอเรื่อง ขอใช้สิทธิประโยชน์ในการพัฒนาที่ดินบริเวณสองข้างทางตามโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีนแต่อย่างใด
“เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อไทยบางสื่อได้รายงานว่าฝ่ายจีนขอใช้สิทธิประโยชน์ในการพัฒนาที่ดินบริเวณสองข้างทางตามเส้นทางโครงการความร่วมมือรถไฟจีน-ไทย ในการนี้โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทยขอชี้แจงดังต่อไปนี้ คณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วม มือด้านรถไฟจีน–ไทยได้มีการประชุมมาแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง ฝ่ายจีนไม่เคยเสนอหรือปรึกษาหารือกับฝ่ายไทยในเรื่องพัฒนาที่ดินบริเวณสองข้างทางตามเส้นทางรถไฟ ปัจจุบันนี้รูปแบบความร่วมมือสำหรับโครงการนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลง ฝ่ายไทยจะลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ ฝ่ายจีนยิ่งไม่มีเหตุที่จะเสนอเรื่องนี้” แถลงการณ์ของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยระบุ