เทศบาลเมืองลพบุรี ร่วมกับจังหวัดลพบุรี ชวนเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงย้อนยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ประจำปี 2562
ที่บริเวณอนุสาวรีย์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานการแถลงข่าว งานลอยกระทงย้อนยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม ประจำปี 2562 ได้มีการกำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 10 และวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ณ บริเวณวงเวียนศรีสุริโยทัย หรือวงเวียนสระแก้ว อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี เพื่อรักษาและส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชน ได้แสดงออกทางศิลปะและวัฒนธรรมของไทย สร้างแนวความคิดทางศิลปะการประดิษฐ์ ให้กับอนุชนรุ่นหลัง เป็นการรักษาประเพณีอันดีงาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยให้คงอยู่สืบไป
นอกจากนี้ ยังปลูกฝังให้ประชาชนเกิดจิตสำนึกและร่วมรับผิดชอบ ในการอนุรักษ์แหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม การสร้างความสามัคคีความสนุกสนานให้กับประชาชน รวมทั้งระลึกถึงคุณงามความดีของ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่มีต่อเมืองลพบุรี กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย ขบวนแห่ประวัติศาสตร์งานประเพณีลอยกระทง 3 ยุค 3 สมัย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา จนถึงสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ด้วยขบวนช้าง ขบวนรถม้า ขบวนรถรางและประชาชนที่แต่งกายในยุคสมัยต่างๆ ที่สวยสดงดงาม การประกวดขบวนแห่กระทงจากหน่วยงานราชการและชุมชนในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี ขบวนจากสถานศึกษาที่ส่งเข้าร่วมการประกวด การประกวดหนูน้อยนพมาศ การประกวดนางนพมาศ การประกวดกระทงใหญ่ประเภทความคิด ประเภทสวยงาม การประกวดกระทงประดิษฐ์ การแสดงของนักเรียน รำวงย้อนยุค การจัดแสดงมหรสพลิเก ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ สินค้าOTOP พร้อมกันนี้มีการร่วมสนุกจับสลากชิงรางวัลรถจักรยานยนต์และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมายซึ่งผู้ได้รับรางวัลต้องอยู่ร่วมงานประเพณีลอยกระทงย้อนยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม และต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงในการรับรางวัลอีกด้วย
ด้าน นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี ได้กล่าวกับ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรีและ สำนักข่าวเดลิซันเดย์ ว่า งานประเพณีลอยกระทงย้อนยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม จัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านๆมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาและส่งเสริมให้ประชาชน และเยาวชน ได้แสดงออกทางวัฒนธรรมไทย ได้รักษาประเพณีอันดีงามที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยให้คงอยู่สืบไป และเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนอนุรักษ์แหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งระลึกคุณงามความดีของ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงครามที่มีต่อเมืองลพบุรี
ซึ่งในปีนี้จัดยิ่งใหญ่ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาท่องเที่ยวงานประเพณี ลอยกระทง ย้อนยุค ในสมัยจอมพล ป พิบูลสงคราม ท่านจะสัมผัสวัฒนธรรมในสมัยจอมพล ป แต่งกายในยุคนั้นสวยงาม ทั้งชายและหญิง มาสัมผัสกันได้ แต่งกายในสมัยนั้น ทั้งเมืองเลยทีเดียว ท่านจะ หลงรักเมืองลพบุรี ไปเลยทีเดียว คาดว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จะลงมาท่องเที่ยวจังหวัดลพบุรี จะทำรายได้เข้าตัวเมืองลพบุรีมหาศาล
นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี ได้เล่า ประวัติความเป็นมาการก่อสร้าง วงเวียนศรีสุริโยทัย ตอนหนึ่ง กับ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี และ สำนักข่าวเดลิซันเดย์ ว่า วงเวียนศรีสุริโยทัย . มี
ประวัติความเป็นมา
วงเวียนศรีสุริโยทัย หรือวงเวียนสระแก้ว ตั้งอยู่บนถนนนารายณ์มหาราช ถูกก่อสร้างในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เริ่มจากการขุดสระในปี พ.ศ. ๒๔๘๑-๒๔๘๒ เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในย่านเมืองใหม่ลพบุรีโดยก่อสร้างเป็นประติมากรรมคล้ายทหารปืนใหญ่ในท่าเตรียมพร้อมบนแท่นสูงกลางสระ
ในเวลาต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของประติมากรรมเดิม ด้วยการสร้างประติมากรรมลักษณะคล้ายเทียนตั้งอยู่กลางพาน มีสะพานเชื่อมจากขอบสระทั้งสี่ทิศ ขอบพานมีตรากระทรวงต่าง ๆ ในขณะนั้น เช่น กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการคลัง เป็นต้น ในสระมีพญานาคให้น้ำสี่ตัว มีรูปปั้นคชสีห์หมอบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารอยู่เชิงสะพานทั้งสี่ทิศรวมแปดตัว รูปปั้นคชสีห์มีเจตนาปั้นให้มีกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดความรู้สึกแข็งแรงดุดัน ส่วนขอบสระสร้างเป็นที่นั่งพักผ่อนโดยรอบ
มีบุคคลร่วมสมัยของการก่อสร้างวงเวียนสุริโยทัยเช่น กมล เกตุ อดีตหัวหน้าหน่วยศิลปากรลพบุรี ระบุว่าสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายพาน และแท่งเทียนนั้นแท้จริงแล้ว ผู้สร้างต้องการสร้างเป็นฐานสำหรับเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่จอมพล ป. ไม่เห็นดีด้วย ประติมากรรมจึงมีลักษณะเป็นแท่งเทียนดังกล่าว
ซึ่งในปีนี้จัดยิ่งใหญ่ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาท่องเที่ยวงานประเพณี ลอยกระทง ย้อนยุค ในสมัยจอมพล ป พิบูลสงคราม ท่านจะสัมผัสวัฒนธรรมในสมัยจอมพล ป แต่งกายในยุคนั้นสวยงาม ทั้งชายและหญิง มาสัมผัสกันได้ แต่งกายในสมัยนั้น ทั้งเมืองเลยทีเดียว ท่านจะ หลงรักเมืองลพบุรี ไปเลยทีเดียว คาดว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จะลงมาท่องเที่ยวจังหวัดลพบุรี จะทำรายได้เข้าตัวเมืองลพบุรีมหาศาล
นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี ได้เล่า ประวัติความเป็นมาการก่อสร้าง วงเวียนศรีสุริโยทัย ตอนหนึ่ง กับ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี และ สำนักข่าวเดลิซันเดย์ ว่า วงเวียนศรีสุริโยทัย . มี
ประวัติความเป็นมา
วงเวียนศรีสุริโยทัย หรือวงเวียนสระแก้ว ตั้งอยู่บนถนนนารายณ์มหาราช ถูกก่อสร้างในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เริ่มจากการขุดสระในปี พ.ศ. ๒๔๘๑-๒๔๘๒ เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในย่านเมืองใหม่ลพบุรีโดยก่อสร้างเป็นประติมากรรมคล้ายทหารปืนใหญ่ในท่าเตรียมพร้อมบนแท่นสูงกลางสระ
ในเวลาต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของประติมากรรมเดิม ด้วยการสร้างประติมากรรมลักษณะคล้ายเทียนตั้งอยู่กลางพาน มีสะพานเชื่อมจากขอบสระทั้งสี่ทิศ ขอบพานมีตรากระทรวงต่าง ๆ ในขณะนั้น เช่น กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการคลัง เป็นต้น ในสระมีพญานาคให้น้ำสี่ตัว มีรูปปั้นคชสีห์หมอบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารอยู่เชิงสะพานทั้งสี่ทิศรวมแปดตัว รูปปั้นคชสีห์มีเจตนาปั้นให้มีกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดความรู้สึกแข็งแรงดุดัน ส่วนขอบสระสร้างเป็นที่นั่งพักผ่อนโดยรอบ
มีบุคคลร่วมสมัยของการก่อสร้างวงเวียนสุริโยทัยเช่น กมล เกตุ อดีตหัวหน้าหน่วยศิลปากรลพบุรี ระบุว่าสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายพาน และแท่งเทียนนั้นแท้จริงแล้ว ผู้สร้างต้องการสร้างเป็นฐานสำหรับเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่จอมพล ป. ไม่เห็นดีด้วย ประติมากรรมจึงมีลักษณะเป็นแท่งเทียนดังกล่าว
เคยมีการประดิษฐ์รูปเปลวไฟวางบนแท่งเทียนซึ่งเทศบาลลพบุรีทำมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙ แต่ภายหลังได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ด้านความไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้สร้าง จึงได้มีการนำออกไป
การใช้ประโยชน์
แม้เหตุผลในการสร้างสระแก้วคือเพื่อสร้างเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ในปัจจุบันถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ชาวลพบุรีเข้าไปใช้สอยน้อย เนื่องจากการเข้าไปยังวงเวียนยากลำบาก เพราะมีรถวิ่งวนรอบวงเวียนอยู่ตลอด
การใช้ประโยชน์
แม้เหตุผลในการสร้างสระแก้วคือเพื่อสร้างเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ในปัจจุบันถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ชาวลพบุรีเข้าไปใช้สอยน้อย เนื่องจากการเข้าไปยังวงเวียนยากลำบาก เพราะมีรถวิ่งวนรอบวงเวียนอยู่ตลอด
อย่างไรก็ตามเทศบาลเมืองลพบุรีได้มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงย้อนยุคจอมพล ป. พิบูลสงครามบริเวณรอบวงเวียนศรีสุริโยทัย ซึ่งจัดติดต่อกันตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ จนถึงปัจจุบัน โดยมีคำขวัญว่า “มาลานำไทย แต่งกายย้อนยุค ร่วมสนุกลอยกระทง
จอมพล ป. พิบูลสงครามมีนามเดิมว่า แปลก ขิตตะสังคะ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อย ทหารปืนใหญ่ และเดินทางไปศึกษาวิชาการทหารปืนใหญ่เพิ่มเติมที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดินทางกลับมาได้ร่วมกับคณะราษฏรทำการ เปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีบทบาทอย่างสูงในการอภิวัฒน์ (Reforn) สังคมไทยให้มีความทันสมัยพ้นจาก สภาพความล้าหลัง
ผลงาน
จอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งครั้งแรกระหว่าง พ.ศ. 2481-2487 และครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2451-2400 จอมพล ป. พิบูลสงครามมีบทบาทการเมืองไทยที่สำคัญทั้ง 2 สมัยและเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย การอภิวัฒน์สังคมไทยตามแนวดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะใช้นโยบายชาตินิยม เข้ามาประสานความร่วมมือจากประชาชน อาทิ ส่งเสริมกิจกรรมของกองทัพ ส่งเสริมความเป็นชนชาติไทย เน้นนโยบายเศรษฐกิจแบบไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ประกาศรัฐนิยมเพื่อปฏิวัติวัฒนธรรมของสังคมไทยเสียใหม่เช่น เรื่องภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ การกินอยู่ การดนตรี การละเล่น การแต่งกาย คตินิยม เป็นต้น ดังนั้นจึงถือว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของไทย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองลพบุรีหลายประการเช่น การวางผังเมืองลพบุรีตามแบบยุโรป ( ปัจจุบันผังเมืองแบบวงเวียนคงมีเหลือให้เห็นที่เมืองลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ) การสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร สร้างนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีจึงให้การยอมรับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาวลพบุรี
ผลงาน
จอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งครั้งแรกระหว่าง พ.ศ. 2481-2487 และครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2451-2400 จอมพล ป. พิบูลสงครามมีบทบาทการเมืองไทยที่สำคัญทั้ง 2 สมัยและเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย การอภิวัฒน์สังคมไทยตามแนวดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะใช้นโยบายชาตินิยม เข้ามาประสานความร่วมมือจากประชาชน อาทิ ส่งเสริมกิจกรรมของกองทัพ ส่งเสริมความเป็นชนชาติไทย เน้นนโยบายเศรษฐกิจแบบไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ประกาศรัฐนิยมเพื่อปฏิวัติวัฒนธรรมของสังคมไทยเสียใหม่เช่น เรื่องภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ การกินอยู่ การดนตรี การละเล่น การแต่งกาย คตินิยม เป็นต้น ดังนั้นจึงถือว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของไทย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองลพบุรีหลายประการเช่น การวางผังเมืองลพบุรีตามแบบยุโรป ( ปัจจุบันผังเมืองแบบวงเวียนคงมีเหลือให้เห็นที่เมืองลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ) การสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร สร้างนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีจึงให้การยอมรับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาวลพบุรี
จอมพล ป. พิบูลสงครามมีนามเดิมว่า แปลก ขิตตะสังคะ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อย ทหารปืนใหญ่ และเดินทางไปศึกษาวิชาการทหารปืนใหญ่เพิ่มเติมที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดินทางกลับมาได้ร่วมกับคณะราษฏรทำการ เปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีบทบาทอย่างสูงในการอภิวัฒน์ (Reforn) สังคมไทยให้มีความทันสมัยพ้นจาก สภาพความล้าหลัง
ผลงาน
จอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งครั้งแรกระหว่าง พ.ศ. 2481-2487 และครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2451-2400 จอมพล ป. พิบูลสงครามมีบทบาทการเมืองไทยที่สำคัญทั้ง 2 สมัยและเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย การอภิวัฒน์สังคมไทยตามแนวดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะใช้นโยบายชาตินิยม เข้ามาประสานความร่วมมือจากประชาชน อาทิ ส่งเสริมกิจกรรมของกองทัพ ส่งเสริมความเป็นชนชาติไทย เน้นนโยบายเศรษฐกิจแบบไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ประกาศรัฐนิยมเพื่อปฏิวัติวัฒนธรรมของสังคมไทยเสียใหม่เช่น เรื่องภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ การกินอยู่ การดนตรี การละเล่น การแต่งกาย คตินิยม เป็นต้น ดังนั้นจึงถือว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของไทย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองลพบุรีหลายประการเช่น การวางผังเมืองลพบุรีตามแบบยุโรป ( ปัจจุบันผังเมืองแบบวงเวียนคงมีเหลือให้เห็นที่เมืองลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ) การสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร สร้างนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีจึงให้การยอมรับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาวลพบุรี
จอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งครั้งแรกระหว่าง พ.ศ. 2481-2487 และครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2451-2400 จอมพล ป. พิบูลสงครามมีบทบาทการเมืองไทยที่สำคัญทั้ง 2 สมัยและเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย การอภิวัฒน์สังคมไทยตามแนวดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะใช้นโยบายชาตินิยม เข้ามาประสานความร่วมมือจากประชาชน อาทิ ส่งเสริมกิจกรรมของกองทัพ ส่งเสริมความเป็นชนชาติไทย เน้นนโยบายเศรษฐกิจแบบไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ประกาศรัฐนิยมเพื่อปฏิวัติวัฒนธรรมของสังคมไทยเสียใหม่เช่น เรื่องภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ การกินอยู่ การดนตรี การละเล่น การแต่งกาย คตินิยม เป็นต้น ดังนั้นจึงถือว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของไทย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองลพบุรีหลายประการเช่น การวางผังเมืองลพบุรีตามแบบยุโรป ( ปัจจุบันผังเมืองแบบวงเวียนคงมีเหลือให้เห็นที่เมืองลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ) การสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร สร้างนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีจึงให้การยอมรับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาวลพบุรี
เทศบาลเมืองลพบุรีขอเชิญร่วมสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีลอยกระทงย้อมยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2562 ณ บริเวณ วงเวียน ศรีสุริโยทัย (สระแก้ว) ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี มากันเยอะๆนะครับ งานนี้ จัดยิ่งใหญ่ กว่าทุกปี
ใจรัก วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี