ตำรวจเมืองมิวนิคเผยคนร้ายก่อเหตุกราดยิงมีปัญหาทางจิต-หมกมุ่นความรุนแรง พบเชื่อมโยงคนร้ายสังหารหมู่ที่นอร์เวย์เมื่อ 5 ปีก่อน
กรมตำรวจเมืองมิวนิค
ประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า เหตุกราดยิงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดและห้างสรรพสินค้าโอลิมเปีย เมื่อเวลา 17.50 น. ของวันที่ 22 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่นเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บ 27 คน ขณะที่จากการสอบสวนพบว่า คนร้ายหมกมุ่นเรื่องกราดยิงและไม่เกี่ยวกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส)
ฮูแบร์ทุส แอนเดร ผู้บังคับการกรมตำรวจมิวนิค กล่าวว่า คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมี 3 คน โดยชายวัย 18 ปี ซึ่งเป็น 1 ในคนร้ายได้ฆ่าตัวตายในที่เกิดเหตุ เขาถือสองสัญชาติคืออิหร่านและเยอรมัน ซึ่งแอนเดรเชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุเพียงลำพัง (โลนวูล์ฟ) และไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อต้องจับตาการก่อการร้าย ส่วนมือปืนอีก 2 คนอยู่ระหว่างการหลบหนี
ทั้งนี้ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของพฤติกรรมของมือปืนคนดังกล่าวก่อนก่อเหตุ โดยมือปืนสวมเสื้อสีดำ รองเท้าบู๊ตแบบทหาร และสะพายกระเป๋าเป้ ยืนอยู่บนดาดฟ้าของห้าง และตะโกนว่า “ผมเป็นคนเยอรมัน” ก่อนจะก่อเหตุกราดยิง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า มือปืนมีปัญหาทางจิตและอาการซึมเศร้า
นอกจากนี้ กรมตำรวจเยอรมนียังระบุด้วยว่า คนร้ายหมกมุ่นในเรื่องกราดยิงมาก และมีความเชื่อมโยงกับ แอนเดอส์ เบห์ริง เบรวิก ชายชาวนอร์เวย์ที่ก่อเหตุกราดยิงค่ายฤดูร้อน เมื่อปี 2011 คร่าชีวิตคนบริสุทธิ์กว่า 77 คน ถือเป็นเหตุโจมตีที่รุนแรงที่สุดของนอร์เวย์ โดยวันที่เกิดเหตุกราดยิงในเยอรมนี ตรงกับวันครบรอบ 5 ปีเหตุกราดยิงในนอร์เวย์
แอนเดร ระบุว่า ลักษณะการก่อเหตุกราดยิงครั้งล่าสุดไม่มีความคล้ายคลึงกับเหตุผู้อพยพชาวอัฟกันวัย 17 ปี ที่บุกแทงผู้โดยสารบนรถไฟจนเสียชีวิต 5 คน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. โดยกลุ่มไอเอสประกาศอ้างตัวอยู่เบื้องหลัง ก่อให้เกิดการตั้งคำถามต่อมาตรการรับผู้อพยพของเยอรมนี ซึ่งเหตุกราดยิงครั้งนี้ถือเป็นเหตุโจมตียุโรปตะวันตกครั้งที่ 3 ช่วงเวลาเพียง 8 วัน หลังเหตุสลดที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส และเหตุบุกแทงที่เยอรมัน
ด้านประธานาธิบดี โยอาคิม เกาค์ ของเยอรมนี กล่าวว่า เหตุกราดยิงดังกล่าวเป็นการโจมตีที่โหดเหี้ยม ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านประณามการกระทำดังกล่าว พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลอิหร่านจะสนับสนุนรัฐบาลและประชาชนเยอรมันอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกันต่อต้านการก่อการร้าย