เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 ที่ กระทรวงศึกษาธิการ : นายประเสริฐ บุญเรือง ได้เข้ารับตำแหน่ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)วันแรก โดยมีผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ รอให้การต้อนรับ โดยเวลา 08.39 น.เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ พระพุทธบารมีศักดิ์สิทธิ์สยามิศรจักรีสัฏฐีอนุสรณ์ ศึกษาทรรังสรรค์ พร้อมสักการะเครื่องบูชาศาลพระภูมิ รวมทั้งถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และไหว้ศาลปู่เจียม เพื่อเป็นศิริมงคล
และในเวลา 09.09 น. นายประเสริฐฯ ถือฤกษ์เข้าห้องทำงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมกับสักการะบูชาพระพุทธรูปในห้องทำงาน หลังจากนั้นหน่วยงาน ส่วนราชการในสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมแสดงความยินดีกันอย่างเนืองแน่น บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น
นายประเสริฐฯ เปิดเผยภายหลังการเข้ารับตำแหน่งว่า ตนหารือกับ นายอำนาจ วิชยานุวัติ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.),นายณรงค์ แผ้วพลสง รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา (กอศ.) และนายสุภัทร จำปาทองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ว่าทุกองค์กรหลัก จะต้องทำงานเป็นทีมเดียวกัน ขับเคลื่อน นโยบายของนายณัฏฐพล ที่ปสุวรรณ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริงและมีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะนโยบายที่รัฐมนตรีว่าการศธ. ที่กำชับเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณปีงบ 2563 โดยขอความร่วมมืองดการศึกษาดูงานต่างประเทศ 1 ปี ลดการจัดอบรมสัมมนา จัดอีเวนท์ รวมถึงทบทวนงบประมาณที่มีความซ้ำซ้อน ซึ่งตนได้มอบหมายให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) กำหนดหลักเกณฑ์ รูปแบบ ลักษณะข้อห้ามต่างๆ ในการดำเนินการจ่ายงบประมาณ เพื่อการทำงานเป็นแนวทางเดียวกันให้กับองค์กรหลัก และหน่วยงานในกำกับปฏิบัติตาม เพราะถ้าไม่กำหนดหลักเกณฑ์ออกมาชัดเจน จะเกิดความเหลื่่อมล้ำ และไม่ก่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยจะออกหลักเกณฑ์ให้เร็วที่สุด คาดว่าภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้จะแล้วเสร็จ
“ส่วนเรื่องการทุจริตในกระทรวงนั้น เชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าทำ เพราะรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ประกาศชัดเจนว่าถ้าพบใครทำจะไม่ปล่อยไว้แน่นอน ส่วนงานเร่งด่วนที่จะต้องทำคือ เรื่องการใช้งบประมาณ ที่ต้องเข้าไปเสนองบประมาณของศธ.ต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ ผมเชื่อว่าหลังจากที่ชี้แจงเสร็จแล้ว งบฯใดที่หน่วยงานใดขาด งบฯใดที่ยังหลวม ประสิทธิภาพยังไม่แน่นจะสามารถเกลี่ยกันภายในกระทรวง โดยไม่รบกวนภาษีของประชาชนมาเพิ่มเติม” นายประเสริฐฯ กล่าว
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องโครงสร้าง ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ศธ. ตั้งคณะปฏิรูปการศึกษา 15 คน เพื่อจะขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษานั้น คณะกรรมการชุดนี้จะปฏิรูปการศึกษาทุกเรื่อง และทุกภาคส่วนไม่ใช่เพียงโครงสร้างศธ.เท่านั้น จะรวมถึงการปรับปรุงหลักสูตร การจัดการเรียนการสร้างเป็นต้น ทั้งนี้จะมีคณะกรรมการเพิ่มขึ้นอีก 1 คณะเพื่อดูเรื่องโครงสร้าง ศธ.โดยเฉพาะ โดยรัฐมนตรีว่าการศธ. จะเป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้า
“เรื่องการปรับโครงสร้าง ศธ. ผมขอรอฟัง นโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ก่อน ว่าจะจัดการอย่างไร และจากที่ผมฟังนโยบายจากนายวิษณุ และรัฐมนตรีว่าการ ศธ. พบว่าโครงสร้างศธ.น่าจะมีการปรับแก้สิ่งที่ซ้ำซ้อน ไม่ว่าจะเป็นในระดับภูมิภาคหรือส่วนกลาง และในอนาคตโครงสร้างของศธ.จะเป็นอย่างไร ยังตอบไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการทุกชุด ที่ตั้งขึ้นมากำหนดรูปแบบโครงสร้าง ศธ.อย่างไร แต่ผมยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบสิทธิ และข้าราชการทุกภาคส่วนจะต้องได้รับความเป็นธรรม ใครเคยมีตำแหน่งอะไร ใครเคยได้ระดับไหนก็จะได้ผลประโยชน์ทุกอย่างที่เคยได้ จะไม่มีลด มีแต่เสมอตัวและเพิ่มขึ้น แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ที่จะกำหนดนโยบายการปฏิรูปการศึกษาและปรับโครงสร้างศธ.ต่อไป” นายประเสริฐฯ กล่าวในที่สุด
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน