เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. ณ วัดอุทัยธาราม (บางกะปิ) : ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษาบริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด และ ประธานที่ปรึกษา “มูลนิธิพระราหู ใจถึงใจ” และ ประธานจัดโครงการอุปสมบทหมู่ ตามรอยพระบรมศาสดา สู่ดินแดนพุทธภูมิ แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 4 ตำบล รุ่นที่ 3 ณ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย ได้นำคณะผู้เข้าร่วมโครงการทำพิธีกราบขอขมาลาอุปสมบทและทำพิธีปลงผมจำนวน 41 ท่าน
ซึ่งมีผู้บวชพระจำนวน 35 ท่าน และผู้บวชชีจำนวน 6 ท่าน โดยได้รับเมตตาจาก พระเทพวิสุทธิมุนี เปรียญธรรม 9 ประโยค ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เจ้าคณะเขตพญาไท และพระครูอุทัยธรรมานุกูล เจ้าคณะแขวงทุ่งพญาไท เจ้าอาวาส วัดอุทัยธาราม (บางกะปิ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์พร้อมเมตตาขลิบผมพร้อมกับให้พรเพื่อเป็นศิริมงคลผู้ที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ และได้รับเกียรติจาก พล.อ.บัณฑิตย์ บุณยะปาน อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและภริยา ให้เกียรติมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส และเป็นประธานในการกราบขอขมาลาบวช รวมทั้งเป็นประธานพิธีปลงผมครั้งนี้
ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก พล.ต.ปธาน ทองขุนนา ประธานพระนวกะโพธิ รุ่นที่ 2,พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบก.ทว.,พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ทองสาริ ผกก.กลุ่มงาน อศจ.ตร. และนายสัญญา นิลสุพรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เขต 3 จ.นครสวรรค์ รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติ ญาติรักมิตรสหาย และ เพื่อนกลุ่มหิมาลัยกรุ๊ป มาร่วมพิธี ร่วมอนุโมทนาบุญให้กับคณะที่เข้าร่วมอุปสมบททั้ง 41 ท่าน ก่อนที่จะเดินทางไปทำพิธีบรรพชาภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ และทำพิธีอุปสมบทหมู่ ณ พระอุโบสถ วัดไทยพุทคยา ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 9–24 ตุลาคม 2562 นี้เป็นลำดับต่อไป
โครงการบรรพชา อุปสมบทหมู่ ได้จัดขึ้นติดต่อกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา สำหรับปีนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่างๆรวมทั้งประขาชนทั่วไปได้มาเข้าร่วมโครงการฯเป็นอย่างมาก สำหรับโครงการบรรพชา อุปสมบทหมู่ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพระธรรม ในดินแดนกำเนิดของพระพุทธศาสนา หรือ พุทธสังเวชนียสถาน 4 ตำบล แห่งดินแดนพุทธภูมิ สถานที่เนื่องด้วยการประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะทำให้คณะผู้ที่บรรพชา อุปสมบท ในครั้งนี้ มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา มีจิตใจที่สงบ มีความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน