วันนี้ วันจันทร์ที่ 7 ต.ค.62 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม.,พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รองผบช.ตชด.ปฏิบัติราชการ สตม.,พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.ประเสริฐ วิจิตรทัศนา รอง ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.2 บก.ตม.1 ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบกลุ่มแก๊งต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย และพัฒนาให้ก้าวทันอาชญากรรมที่นับวันจะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น โดยใช้ระบบไบโอเมตริกในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เพิ่มความเข้มในการอนุญาตการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรให้กับบุคคลต่างด้าว ปรากฏผลการปฏิบัติ ดังนี้
1.Biometrics เจ๋ง ตม.1 จับกุมต่างชาติ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนพาสปอร์ต หวังตบตาเจ้าหน้าที่ เพื่อขอต่อวีซ่า แต่ไปไม่รอดด้วยระบบ Biometrics โดยเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ตม.1 (งานธุรกิจ และ งานท่องเที่ยว) สามารถจับกุมและเพิกถอนวีซ่า ด้วยการใช้ระบบไบโอเมตริก ซึ่งบุคคลต่างด้าวที่ถูกจับกุม มีพฤติการณ์การกระทำความผิดจนถูกบันทึกรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร แต่ได้ทำการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนหนังสือเดินทางในต่างประเทศ เพื่อกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อเข้ามาและมาดำเนินการขอยู่ต่อในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลของบุคคลดังกล่าวด้วยระบบไบโอเมตริก ซึ่งเป็นการตรวจเอกลักษณ์บุคคล ทั้งลายพิมพ์นิ้วมือ รูปหน้า โดยหากเป็นบุคคลที่มีประวัติ หรือถูกขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้าม แล้วระบบจะประมวลผล และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหนังสือเดินทางก็ตาม โดยในห้วงที่ผ่านมา สามารถจับกุมและเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรแล้ว ดังนี้
เจ้าหน้าที่กก.2 บก.ตม.1 (งานธุรกิจ) จับกุมและเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร จำนวน 4 ราย ได้แก่
รายที่ 1.วันที่ 29 พ.ค.62 เพิกถอน นาย Jaehee อายุ 44 ปี สัญชาติ เกาหลีใต้ ได้มาขออยู่ต่อฯ เพื่อทำงานในตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เอสเค ซี คอมมิวนิเคชัน จำกัด แต่ถูกตรวจพบ โดยระบบไบโอเมตริก ว่าเป็นบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวของทางการตำรวจสากล (Interpol red notice ) หมายเลข A 5607/5-2019 (บุคคลที่เป็นภัย) เกี่ยวกับการพนันออนไลน์
รายที่ 2.วันที่ 20 ส.ค.62 เพิกถอนนาย Fan อายุ 26 ปี สัญชาติจีน ได้มาขออยู่ต่อฯ เพื่อทำงานในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่งานบริหารงานลูกค้า บริษัท มิสเตอร์ เจมส์ จำกัด แต่พบว่าเป็นบุคคลต้องห้าม ตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (7) และคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ 1/2558 ลง 27 พ.ย.58 ต้องห้ามมิให้ เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (10)
รายที่ 3.วันที่ 28 ส.ค.62 เพิกถอนนาย Naegles อายุ 36 ปี สัญชาติเบลเลี่ยม ได้มาขออยู่ต่อเพื่อทำงานในตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แพนตากอน มาร์เก็ท จำกัด โดยใช้หนังสือเดินทางฉบับใหม่ อ้างว่าฉบับเก่าสูญหาย แต่ข้อมูลในระบบไบโอเมตริก ปรากฏว่าเป็นผู้ถูกขึ้นบัญชีต้องห้ามเข้าในราชอาณาจักร เนื่องจากถูกจับกุมในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีพฤติการณ์ต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (3)
รายที่ 4.วันที่ 13 ก.ย.62 เพิกถอนนาย Chan อายุ 45 ปี สัญชาติจีน (ฮ่องกง) โดยใช้หนังสือเดินทางฉบับใหม่ เข้ามาเพื่อทำงานในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซิ่ง ทง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตรวจพบโดยระบบไบโอเมตริก ปรากฏเป็นบุคคลที่มีหมายจับต่างประเทศ ซึ่งมีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (7)
กก.2 บก.ตม.1 (งานท่องเที่ยว) จับกุมและเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร จำนวน 9 ราย ได้แก่
รายที่ 1.วันที่ 26 มิ.ย.62 จับกุมและเพิกถอน MR. CHENGI สัญชาติจีน เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (10) ระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ 9 เม.ย.2019
รายที่ 2.วันที่ 4 ก.ค.62 จับกุมและเพิกถอน MR. MAGDE ชื่อเดิม Mr. MAGDY สัญชาติอียิปต์ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (10) ระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ 16 ก.พ.62
รายที่ 3.วันที่ 5 ส.ค.62 จับกุมและเพิกถอน MISS. OCHILOVNA ชื่อเดิม MISS FIRUZA สัญชาติ อุซเบก เป็นบุคคลถูกดำเนินคดีข้อหา ติดต่อ ชักชวนหรือรบเร้านักท่องเที่ยวตามสถานที่สาธารณะ เพื่อการค้าประเวณี อันเป็นการเปิดเผย น่าอับอาย ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของประเทศไทย รวมทั้งส่งผลกระทบต่อสังคม พฤติการณ์ เข้าลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (7) (8)
รายที่ 4.วันที่ 13 ส.ค.62 จับกุมและเพิกถอนนาย XIE ชื่อเดิม MR.SONG สัญชาติจีน เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพ(มัคคุเทศก์) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (3)
รายที่ 5.วันที่ 15 ส.ค.62 จับกุมและเพิกถอน MS. OLESYA อายุ 41 ปี สัญชาติอุซเบก เป็นบุคคลต่างด้าว พฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (3)
รายที่ 6.วันที่ 15 ส.ค.62 จับกุมและเพิกถอน MRS. ZINN ชื่อเดิม MRS. ZIN อายุ 30 ปี สัญชาติ เมียนมา พฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (3)
รายที่ 7.วันที่ 19 ส.ค.62 จับกุมและเพิกถอน MR.TRIYUGI อายุ 35 ปี สัญชาติ อินเดีย เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (10) ระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ 25 เม.ย. 2019
รายที่ 8.วันที่ 6 ก.ย.62 จับกุมและเพิกถอน MR.HICHAM อายุ 45 ปี สัญชาติ อียิปต์ พฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (3)
รายที่ 9.จับกุมวันที่ 6 ก.ย.62 จับกุมและเพิกถอน MR.GAFAR อายุ 34 ปี สัญชาติ ซีเรีย เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (10) ระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ 10 พ.ย. 2016
2. ตม.1 รวบ 2 หนุ่ม 1 สาวโรตีจดทะเบียนปลอม เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ตม.1 (งานทั่วไป) จับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติอินเดีย ชาย 2 ราย หญิง 1 ราย โดยการใช้ข้อมูลเท็จ และแอบแฝงเข้ามาจดทะเบียนสมรสกับคนไทย ดังนี้
รายที่ 1.นาย AJAY อายุ 40 ปี สัญชาติ อินเดีย สมรสกับนางสาวบี ที่สำนักทะเบียนอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี มาขออยู่ต่อฯ ปีที่ 10 เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ตม.1 ได้ตรวจสอบกับที่อำเภอโคกสำโรง และทางอำเภอโคกสำโรง แจ้งผลการตรวจสอบพบว่าใบสำคัญการสมรสเป็นเอกสารทุจริตโดยการปลอมเอกสารทั้งฉบับ โดยฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่ได้มาแสดงตนต่อหน้านายทะเบียน จึงเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
รายที่ 2.นาย MANOJ อายุ 34 ปี สัญชาติ อินเดีย สมรสกับนางวัลณี ที่สำนักทะเบียนเขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร มาขออยู่ต่อฯ ปีที่ 4 เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ตม.1 ได้ตรวจสอบกับสำนักงานเขตห้วยขวาง และทางสำนักงานเขตห้วยขวางแจ้งผลการตรวจสอบพบว่าคู่สมรสรายนี้ได้จดทะเบียนสมรสจริง เมื่อวันที่ 10 ก.พ.59 แต่ภายหลังสำนักงานเขตห้วยขวางได้รับแจ้งจาก กองสัญชาติและนิติกร กรมการกงสุล และได้รับแจ้งจากสถานทูตอินเดีย ว่าเอกสารที่คู่สมรสนำมายื่นและแสดงเพื่อใช้จดทะเบียนรสมีการปลอมแปลงเอกสาร ตราประทับของสถานทูตอินเดีย และลายเซ็นต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่สถานทูต
รายที่ 3.นาง SANDEEP อายุ 26 ปี สัญชาติ อินเดีย สมรสกับนายศักดิ์ชัย ที่อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู มาขออยู่ต่อฯ ปีที่ 4 กก.2ฯ ได้ตรวจสอบกับอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู และทางที่ว่าการอำเภอแจ้งผลการตรวจสอบพบว่าใบสำคัญการสมรสไม่พบต้นขั้วการจดทะเบียนสมรส ประกอบกับเอกสารการจดทะเบียนสมรสของที่ว่าการอำเภอโนนสัง ระหว่างบุคคลไทยกับบุคคลสัญชาติอื่น ที่ออกหรือลงนามโดยนายนันทพล ชุ่มคำ ในช่วงเวลาระหว่างเดือน ม.ค.54–ม.ค.55 อยู่ในข่ายที่น่าสงสัยว่าเป็นการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขณะนี้อยู่ระว่างดำเนินคดีฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
โดยทั้ง 3 ราย ถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร,ขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามและอยู่ระหว่างดำเนินคดีและขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน