จากคดีสะเทือนขวัญเมืองสารคาม คนร้ายลวงสังหาร น.ส.รุจิษยา หรือแจน อมรศรีรัตนชัย อายุ 23 ปี ลูกสาวนายสมชาติ อมรศรีรัตนชัย ชื่อในวงการพระเครื่อง “เล็ก สารคาม” รองประธานบริหารพระเครื่องภาคอีสานเขต 2 ทิ้งศพบริเวณพงหญ้าข้างถนนบายพาสรอบเมืองมหาสารคาม หลังตลาดเกษตร ต.แก่งเลิงจาน (อ่านข่าว :ฆ่าโหดลูกสาวคนดัง!! พ่อรุดดูศพ ลูกเพิ่งกลับจากเมืองนอก สุดสะเทือนขวัญชาวบ้าน
โดยน้องแจนเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองนอก ได้ไม่กี่เดือน และได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา บอกพ่อว่าจะไปเดินตลาดไนท์ที่ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยจนมาพบเป็นศพ สำหรับบุตรสาวคนนี้ และไปช่วยงานร้านกาแฟแห่งหนึ่งกับเพื่อนในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ก.ค. พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม, พ.ต.อ.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ รอง ผบก.ภ.จว.มหสารคาม, พ.ต.อ.ชัยโรจน์ นาคราช ผกก.สส.ภ.จว.มหาสารคาม, พ.ต.อ.กฤตชัย สรวมศรี ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม พร้อมฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงจับกุมนายศักดา ประเสิร์ฐสังข์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 15 ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม อาชีพพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่งในต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาฆ่าน.ส.รุจิษยา โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ต้องหา
โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมา จากหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่หาข่าว พร้อมทั้งเข้าไปสอบถามเพื่อนผู้ตายที่ร้านกาแฟบาร์คอฟฟี่ ซึ่งเป็นร้านที่ผู้ตายไปช่วยงานเพื่อนอยู่ จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาคือคนลงมือก่อเหตุ จึงติดตามจับกุมตัวได้ภายในบ้านพักของผู้ต้องหาเอง
จากการสอบสวน นายศักดา ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าสังหารน้องแจนจริง โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยคบหากับผู้ตายสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยม และเลิกรากันไปได้ประมาณ 4-5 ปี จากนั้นตนก็ได้ขอยืมเงินผู้ตายไป 1,800 บาท และได้ใช้คืนไปแล้ว 500 บาท
“ต่อมาผู้ตายได้มาทวงเงินที่เหลือ ผมจึงลวงผู้ตายให้ออกมาพบบริเวณที่เกิดเหตุ แล้วใช้เชือกที่หาได้ในบริเวณนั้นมารัดผู้ตายจนเสียชีวิต ส่วนแผลที่เกิดจากรอยคล้ายของแข็งทุบตี ผมไม่ทราบ หลังจากนั้นผมได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปที่ร้านขายโทรศัพท์แห่งหนึ่งเพื่อเตรียมแก้อีมี่เครื่อง ก่อนจะเตรียมตัวหลบหนี แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน”
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงส่งตัวผู้ต้องหาให้พนังกานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยระหว่างแถลงจับกุมนั้น มีประชาชนหลายร้อยคนทราบข่าวฮือมาที่โรงพัก เพื่อจะดูหน้าฆาตกร จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุไใม่ให้เกิดความวุ่นวาย