วันนี้ ( 22 ก.ค.) ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอนก สิงขุนทด จำเลย ในคดีวางระเบิดพรรคภูมิใจไทย ปี 2553 ซึ่งในวันนี้นายเอนก เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ศาลอาญารัชดา ถนนรัชดาภิเษก
คดีนี้เกิดขึ้นระหว่างต้นเดือน มิถุนายน ปี 2553 นายเอนก เป็นผู้เข็นรถเข็นผลไม้ที่ซุกซ่อนระเบิดไว้ในถังแก๊ส เข็นผ่านไปทางด้านข้างของอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ใกล้ซอยพหลโยธิน 43 ย่านบางเขน จนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้ผนังด้านหลังอาคารพรรคภูมิใจไทยแตกเสียหาย /รถยนต์ประชาชนและรถเข็นค้าขายของในจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหาย ส่วนนายเอนก ได้รับบาดเจ็บ และดวงตาสูญเสียการมองเห็นทั้ง 2 ข้าง
คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษา จำคุกนายเอนก 35 ปี และปรับ 50 บาท ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เหลือจำคุก 5 ปี ปรับ 50 บาท ขณะที่ศาลฎีกา พิพากษาแก้ จำคุกนายเอนก ตลอดชีวิต แต่ให้การสารภาพ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 25 ปี แต่เมื่อรวมโทษในทุกกรรมแล้ว รวมโทษจำคุก 27 ปี 6 เดือน และปรับ 50 บาท.
ก่อนหน้านั้นศาลอาญารัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเดชพล พุทธจง, นายกำพล คำคง, นายกอบชัย หรือ อ้าย บุญปลอด, นางวริศรียา หรือ อ้อ บุญสม และ นายสุริยา หรือ อ้วน ภูมิวงษ์ แนวร่วม นปช. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันทำวัตถุระเบิด มีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร และกระทำให้เกิดระเบิดฯ ตามความผิด พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ
จากกรณีเมื่อวันที่ เดือนมิถุนายน 2553 จำเลย กับพวก ร่วมกันวางระเบิดพรรคภูมิใจไทย โดยจำเลยทำหน้าที่เข็นรถเข็นขายเงาะที่มีระเบิดซุกไว้ด้านใน แต่เกิดระเบิดขึ้นมาก่อน ทำให้นายเอนกถูกสะเก็ดระเบิดจนตาบอด
คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก 35 ปี ชั้นอุทธรณ์ แก้โทษจำคุก เหลือ 5 ปี ส่วนศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยนั้น เหมาะสมกับพฤติการณ์แล้ว
ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 25 ปี เมื่อรวมโทษอื่น คงจำคุกจำเลยไว้ 27 ปี 6 เดือน ปรับ 50 บาท