ข้าวโพดต้ม ล้มโรคร้าย” สรรพคุณสามารถต้านเซลล์โรคมะเร็ง ขอแค่ทำให้ถูกวิธี!!
น.ส. จันทิมา พูลสวัสดิ์ หรือ น้องโอ๋ ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ลพบุรี เปิดเผยกับ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี ว่า
“ข้าวโพดต้ม ล้มโรคร้าย” สรรพคุณสามารถต้านเซลล์โรคมะเร็ง อีกทั้งมีสารออกฤทธิ์ล้างพิษของพวกอนุมูลอิสระตัวอันตรายต่อเซลล์อวัยวะต่างๆ ในร่างกายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน!!!
ผักผลไม้สดๆจะได้ประโยชน์จากสารอาหารได้ดีกว่าการทำสุกโดยผ่านความร้อน แต่ทฤษฎีนี้เห็นที่จะใช้ไม่ได้กับข้าวโพดแล้ว..แล้วเจ้าข้าวโพดหวานนี้นะ มีสรรพคุณสามารถต้านโรคมะเร็ง อีกทั้งมีสารล้างพิษมากกว่าผักผลไม้อื่นๆ ซะด้วยนะ…
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐอเมริกา รายงานผลการวิจัยลงในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้ว จะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
เมื่อก่อนนี้เราจะมีความเชื่อกันว่า ผักและผลไม้ที่ปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหาร จึงนิยมกินกันดิบๆ แต่คิดดีๆใครจะแทะข้าวโพดดิบๆกินกันล่ะคะ…ซึ่งนับว่าโชคดีทีเดียว เพราะข้าวโพดหวานเป็นพืชที่แม้ปรุงสุกแล้ว แต่ยังคงเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษไว้ได้อย่างดี ถึงจะเสียวิตามินซีไปบ้างก็ตามที ซึ่งก็อย่าได้แคร์ เพราะเราไม่ได้หวังวิตามินซีจากข้าวโพดเป็นหลักอยู่แล้วนี่
ข้าวโพดต้ม ล้มโรคร้าย
นักวิจัยทำการทดลองด้วยการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25, และ 50 องศาเซลเซียส ผลปรากฎว่า ยิ่งต้มนาน ก็จะยิ่งทำให้มีสารซึ่งเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้น 22, 44 และ 53 เปอร์เซนต์ตามลำดับ ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า สารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษนี้จะช่วยทำลายล้างพิษของพวกอนุมูลอิสระตัวอันตรายต่อเซลล์อวัยวะต่างๆ อีกทั้งยังเป็นตัวก่อการร้ายที่จะทำให้เกิดโรคที่มีเหตุมาจากความชรา เช่น ต้อกระจก, โรคสมองเสื่อม รวมทั้งโรคร้ายอย่างหัวใจ และมะเร็งด้วย
พระเอกของเราที่รับบทเป็นตัวล้างพิษนี้ คือ กรดเฟรุลิก (Ferulic acid) กรดอินทรีย์ที่เป็นสารสำคัญช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมีประสิทธิภาพ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงถูกใช้สำหรับต่อต้านความชรา ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง โรคหัวใจ ไข้หวัด รักษาสุขภาพของกล้ามเนื้อ ต่อต้านผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง
นักวิจัยกลุ่มนี้กล่าวว่า ข้าวโพดหวานต้มหรือปิ้ง จะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก ออกมา ยิ่งผ่านความร้อนสูงก็ยิ่งออกมามาก ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากกรดเฟรุลิกจัดอยู่ในพวกพฤษเคมี ซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่อุดมอยู่ในฝักข้าวโพด ดังนั้นการทำสุกจึงช่วยให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น
นอกจากจะช่วยต้านความเสี่ยงการเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งแล้ว สำหรับคนที่เป็นมะเร็งที่รับการทำคีโม กินข้าวโพดต้มจะเป็นผลดีนะ เพราะเจ้าสารล้างพิษนี้จะไปล้างพิษเคมีที่เกิดจากการทำคีโมได้ น.ส.จันทิมา พูลสวัสดิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมกับศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี ต่อไปอีกว่า
“ข้าวโพด” ประโยชน์มหัศจรรย์
ข้าวโพด นอกจากจะเป็นผักที่มีรสชาติหวานมัน อร่อย พร้อมให้พลังงานแก่ร่างกายสูงแล้ว ข้าวโพดยังมีสรรพคุณต่างๆ ที่มีฤทธิ์ทางยาช่วยบรรเทาหรือรักษาโรคต่างๆได้ด้วย
สรรพคุณของข้าวโพด มีดังนี้
1. ข้าวโพดมีรสชาติอร่อย หวานมัน ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
2. มีสารชนิดหนึ่งที่อยู่ในเมล็ดข้าวโพด ที่มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงปอดและหัวใจ
3. มีสรรพคุณเป็นยาแก้เบาหวาน
4. มีสรรพคุณช่วยแก้โรคความดันโลหิตสูง
5. เกสรข้าวโพด มีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ
6. มีสรรพคุณช่วยแก้ไขทันระดู
7. มีสรรพคุณแก้โลหิตกำเดา
8. มีสรรพคุณช่วยแก้โพรงจมูกอักเสบ จมูกอักเสบเรื้อรัง
9. มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับ
10. เมื่อมีแผลเลือดออกบริเวณผิวหนัง ให้นำเถ้าซังข้าวโพดมาผสมกับน้ำมันพืชใช้เป็นยาทา
ประโยชน์ของข้าวโพด มีดังนี้
1. ปัจจุบันข้าวโพดได้ถูกนำมาบริโภคในรูปแบบต่างๆ แต่ที่สามารถพบเห็นได้ง่ายโดยทั่วไป คือ การนำข้าวโพดที่ยังไม่แก่ มาต้ม นึ่งหรือปิ้งให้สุก อาจใส่น้ำตาล เกลือ หรือเนยเพื่อช่วยเพิ่มให้รสชาติอร่อยกลมกล่อมถูกปากมากขึ้น เมนูที่ทำด้วยข้าวโพดส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของอาหารหวาน หรืออาหารว่าง กินเล่น เช่น ข้าวโพดคั่วอบเนย ข้าวโพดคั่วเค็ม ข้าวโพดคั่วหวาน ข้าวโพดนึ่งอบเนย ข้าวโพดปิ้งทาเนย น้ำนมข้าวโพด ขนมหวานต่างๆ ที่มีข้าวโพดมาเป็นส่วนประกอบ ตลอดจนนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม เช่น นม เหล้า เบียร์ ผลิตภัณฑ์ประกอบอาหาร เช่น น้ำตาล น้ำเชื่อม เนยเทียม แม้กระทั่งเครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ฝักข้าวโพดอ่อน ก็ยังนำมาเป็นส่วนประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงเลียง ข้าวโพดทอดมัน เป็นต้น
2. แป้งข้าวโพด แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ แป้งข้าวโพดชนิดหยาบ, แป้งข้าวโพดชนิดค่อนข้างละเอียด, แป้งข้าวโพดชนิดละเอียด แป้งข้าวโพดนั้นนำมาใช้เป็น แป้งสำหรับชุบทอด หรือทำเป็นขนมปังข้าวโพด ซีเรียล
3. น้ำมันข้าวโพด ประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวและกรดไขมันที่จำเป็น คือ กรดไลโนเลอิกอยู่มาก ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
4. น้ำเชื่อมข้าวโพด นำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและใช้ทำขนมหวานต่างๆ มีคุณสมบัติในการคงรูปและไม่ตกผลึก
5. ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง เป็นข้าวโพดสายพันธุ์ที่กำลังเป็นที่นิยม เป็นการพัฒนามาจากข้าวโพดสีม่วงและข้าวโพดข้าวเหนียวรสชาตินุ่มลิ้น หวานและเหนียว พร้อมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายสารสีม่วงเข้มของเมล็ดข้าวโพดพันธุ์นี้จะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) อยู่มากสารนี้ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็ง
6. ลำต้นข้าวโพด เมล็ดข้าวโพดยังสามารถนำมาเป็นอาหารสัตว์ได้อีกด้วย
7. ซังข้าวโพด จะมี adipic acid อยู่ สามารถนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงได้
คำแนะนำในการรับประทานข้าวโพด
– ไม่ควรทานข้าวโพดดิบเพราะอาจจะทำให้ท้องอืดได้
– ควรรับประทานข้าวโพดในปริมาณที่พอดี เพราะถ้ารับประมานในปริมาณมากไปปอาจทำให้อ้วนได้ น.ส.จันทิมา พูลสวัสดิ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายในที่สุด ใจรัก วงศ์ใหญ่ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี