“สมคิด” เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs หรือ SME Rescue Center หวังให้เป็นหน่วยงานแก้ไขปัญหารอบด้านยกระดับผู้ประกอบการสู่ SME 4.0 ขับเคลื่อน ศก.ไทยในอนาคต ก.อุตฯ ขานรับพร้อมผุดศูนย์ช่วยเหลือเปิดบริการ 3.8 พันจุดทั่วประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยในงานเปิดศูนย์ช่วยเหลือ SMEs ผู้ประกอบการ SMEs หรือ SME Rescue Center ว่าได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมสร้างความเข้มแข็งให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยการให้ความช่วยเหลือทั้งการตลาด การจัดการ นวัตกรรม รวมถึงปัญหาด้านการเงินเพื่อให้ก้าวสู่ SMEs รุ่นใหม่ หรือ SME 4.0 เพื่อที่จะเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าวกระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center) โดยใช้การบริหารงานในรูปแบบคณะกรรมการจากหน่วยงานเครือข่าย มีจุดให้บริการกว่า 3,800 แห่งทั่วประเทศ และมีหน่วยคัดกรองวิเคราะห์ปัญหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงของคำร้องที่ส่งผ่านหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ ประมาณ 300 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นทางศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ได้จัดแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพแต่มีปัญหาด้านการเงิน ส่วนกลุ่มที่ 2 กลุ่มที่มีศักยภาพแต่มีปัญหาด้านการจัดการ และกลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ยังมีศักยภาพในการฟื้นฟูไม่มากจะมีหน่วยงานเข้าไปช่วยแนะนำการปรับโครงสร้างธุรกิจให้กลับมาดำเนินการได้ ฯลฯ โดยแต่ละกลุ่มก็จะมีหน่วยงานมารองรับการแก้ไขปัญหา
“เบื้องต้นภาครัฐได้ให้การสนับสนุนเงินทุนจากแก่ผู้ประกอบการที่ผ่านกระบวนการฟื้นฟูและกลุ่มที่ผ่านการคัดกรองจากศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ จากกองทุนพลิกฟื้น SMEs ซึ่งมีวงเงินเริ่มต้นที่ 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการขออนุมัติเงินงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อนำมาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ รายละ 1 ล้านบาท ปลอดอัตราดอกเบี้ยโดยมีระยะเวลาให้กู้ 5-7 ปี เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป” นายสนธิรัตน์กล่าว
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว.เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณการจัดตั้ง SME Rescue Center พร้อมให้ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร หรือศูนย์ OSS สสว. ซึ่งมี 11 ศูนย์ทั่วประเทศในขณะนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการที่ผู้ประกอบการจะติดต่อขอรับการช่วยเหลือ เพื่อเป็นสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์ดังกล่าว