รองนายกฯ พล.อ.ประวิตรฯ อยากเห็นประโยชน์ที่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับ จากเน็ตประชารัฐเหมือนบ้านวังถั่ว จ.ขอนแก่น มอบดีอี/ฝ่ายปกครองเร่งสนับสนุน ความรู้-กิจกรรม-ต่อยอดเพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์
วันนี้ วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2562 : พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความสำเร็จการใช้ประโยชน์จุดติดตั้งเน็ตประชารัฐ บ้านวังถั่ว หมู่ที่ 5 ตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งประสบความสำเร็จจากการใช้งาน และต่อยอดโครงการเน็ตประชารัฐ โดยมี น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม พร้อมด้วย ดร.มนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที และทีมผู้บริหารทีโอทีให้การต้อนรับ
พล.อ.ประวิตรฯ กล่าวว่า โครงการเน็ตประชารัฐเป็นโครงการที่สำคัญโครงการหนึ่งของรัฐบาล เพราะโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมนับเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วถึง เพื่อรองรับการพัฒนาด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจจะใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายโอกาสให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และบริการภาครัฐ โอกาสในการเข้าถึงตลาด
โอกาสในการขายของและเพิ่มรายได้อย่างเท่าเทียมรวมถึง บริการด้านสาธารณสุข และโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จากเนื้อหาสาระที่มีมากมายในอินเทอร์เน็ต รัฐบาลอยากเห็นประโยชน์ที่พี่น้องประชาชนได้รับจากโครงการเน็ตประชารัฐอย่างบ้านวังถั่ว ซึ่งประสบความสำเร็จสามารถเปิดหน้าร้านออนไลน์ขายเครื่องปั้นดินเผาได้มากขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และฝ่ายปกครอง สนับสนุนความรู้และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ชาวน้ำพองได้ใช้เน็ตประชารัฐให้เกิด ประโยชน์สูงสุด
น.อ.สมศักดิ์ฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน โครงการเน็ตประชารัฐมีผู้ลงทะเบียนใช้งาน WiFi จำนวน 7,951,685 คน โดยที่ผ่านมาสามารถสร้างประโยชน์จากเน็ตประชารัฐทั้ง 24,700 หมู่บ้าน กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ บูรณาการการทำงานในการสร้างการรับรู้เน็ตประชารัฐแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า
มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบทของชุมชนและประชาชนในพื้นที่ โดยกระทรวงฯ ได้จัดกิจกรรมการสร้างการรับรู้ในการใช้ประโยชน์โครงข่ายและส่งเสริมการใช้งานเน็ตประชารัฐแก่ประชาชนด้วยโครงการฯ สร้างวิทยากรแกนนำครู กศน.1,033 คน อบรมผู้นำชุมชน 100,446 คน พัฒนาการใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนในหมู่บ้านเน็ต ประชารัฐ 1,224,632 คน และพัฒนาผู้นำและเครือข่ายเน็ตอาสาประชารัฐ 24,700 หมู่บ้าน
ในปี 2562 นี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้เดินหน้าต่อยอดเพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์ โดยมีโครงการที่จะพัฒนาแอปพลิเคชั่นเครือข่ายเน็ตอาสาประชารัฐ และLife 360 ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับชีวิตประจำวันของประชาชนและรวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กเพื่อรองรับเศรษฐกิจของชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้ และนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริงในการชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนและชุมชนมีความตื่นตัวที่จะเรียนรู้ ในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์เต็มศักยภาพ ซึ่งจะสร้างความเข้มแข็งความยั่งยืนให้ชุมชนเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ ตั้งแต่ภาคการผลิตทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมให้สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และเงินทุน ทำให้สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชนสู่ตลาดทั่วประเทศและออกสู่ตลาดระดับโลก ทำให้คนไทยกินดีอยู่ดี นำประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ดร.มนต์ชัยฯ กล่าวว่า เน็ตประชารัฐได้เข้ามาติดตั้งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นทั้งหมด 1,158 จุด โดยอยู่ในอำเภอน้ำพองจำนวน 71 จุด ซึ่งหมู่บ้านวังถั่ว เป็นหนึ่งในหมู่บ้านของอำเภอน้ำพองที่ได้ติดตั้งเน็ตประชารัฐตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 มีผลิตภัณฑ์ เครื่องปั้นดินเผา เป็นสินค้าเด่นของชุมชน โดยผลิตจากดินสีดำซึ่งเป็นดินลักษณะเฉพาะที่มีแห่งเดียวที่หมู่บ้านวังถั่ว
ทั้งนี้จากการเข้ามาของโครงการเน็ตประชารัฐ ทำให้ชาวบ้านได้รับการแนะนำ เรียนรู้ การนำเอาเทคโนโลยีสื่อสารมาใช้ประโยชน์ในการขายของออนไลน์ สามารถสร้างรายได้จากเครื่องปั้นดินเผาจากเดือนละ 90,000 บาท เป็น 200,000 บาท
นอกจากนี้ยังได้ใช้เน็ตประชารัฐเพื่อการเรียนรู้ที่แตกต่างกันในทุกระดับอายุ ตั้งแต่เยาวชน ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ นอกจากนี้ในอำเภอน้ำพองยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สำคัญของหมู่บ้านนาเพียง คือ กุยช่ายขาวปลอดสารพิษที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน ในการปลูกกุยช่ายขาว ด้วยการนำเครื่องปั้นดินเผาของหมู่บ้านมาครอบ จนทำให้กุยช่ายมีสีขาว และมีการขายออนไลน์จนกลายเป็นสินค้าการเกษตรที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร
จากความสำเร็จของการติดตั้งขยายโครงข่ายเน็ตประชารัฐ และการต่อยอดสร้างการใช้ประโยชน์จาก โครงข่ายเน็ตประชารัฐ ต้องขอขอบคุณกระทรวงดิจิทัลฯ ที่ได้เห็นถึงศักยภาพประสบการณ์การทำงานและ ความเชี่ยวชาญในพื้นที่ทั่วประเทศของ ทีโอที
ทั้งนี้ในโอกาสที่รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ มีนโยบายที่จะขยายการติดตั้งโครงข่ายเน็ตประชารัฐอีกจำนวน 12,000 กว่าจุดทั่วประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทีโอที จึงขอเสนอให้รัฐบาลให้การสนับสนุน ทีโอที เข้ารับหน้าที่ในการขยายการติดตั้งโครงข่ายเน็ตประชารัฐของ กระทรวงดีอี โดย ทีโอที พร้อมเข้าดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ของรัฐที่มีศักยภาพและความพร้อมสูงสุด
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน