จาก อิทธิพลของ “พายุโพดุล” ที่กำลังกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้มีฝนตกในหลายพื้นที่ ทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่ตอนบนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งแต่จังหวัดเพชรบูรณ์ ลงมาถึง อำเภอลำสนธิ และ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ทำให้มีน้ำไหลลงสู่พื้นที่รับน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อย่างต่อเนื่อง ตลอด 2- 3 วันที่ผ่านมา จนถึงวันนี้
ล่าสุดระดับน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 52.20 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อขึ้นจากเมื่อวานนี้ อีกกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 80 เซนติเมตร เพื่อจาก 3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อ 3 วันก่อน เป็น 5 เปอร์เซ็นต์ แล้ว
ทั้งนี้ เขื่อนป่าสักได้ ใช้รถแม๊กโค ลงไปเพื่อทำการเคลื่อนย้าน องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่หน้าตักกว่า 2 เมตร ของวัดหนองบัวใหญ่ ซึ่งเป็นวัดเก่า ที่จมน้ำมากว่า 20 ปี เพื่อนำขึ้นไปทำการบูรณะ หลังได้ปิดพื้นที่ห้ามนักท่องเที่ยวลงไปเที่ยวชมเนื่องจากระดับน้ำที่สูงขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งการเคลื่อนย้ายองค์พระขนาดใหญ่ ต้องทำงานแข่งกับระดับน้ำที่เพิ่มสูขขึ้นในแต่ละวัน และต้องทำอย่างระมัดระวัง
แต่สุดท้าย เจ้าหน้าที่ต้องหยุดปฏิบัติการ หลังมีกลุ่มชาวบ้าน กว่า 60 คน ซึ่งเป็นผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ก่อนการก่อสร้างเขื่อน ได้มาเดินทางมารวมตัวกันบริเวณจุดที่วัดจมน้ำ และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ยุติ ความพยายามการนำองค์พระกลับขึ้นมาบูรณะ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ขอร้องให้ องค์พระกลับจมน้ำลงสู่ที่เดิม โดยชาวบ้านให้เหตุผลว่า องค์พระได้ผ่านพิธีสวดถอนไปแล้วเมื่อ 20 ปี ก่อนที่จะถูกน้ำท่วม จึงไม่จำเป็นต้องนำองค์พระกลับขึ้นมา ให้คงไว้เป็นเครื่องเตือนใจของประชาชนในชุนชน และเป็นประวัติศาสตร์ของคนบ้านหนองบัว ว่า..ครั้งหนึ่งได้เคยตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ใจกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นผู้ที่เสียสละย้านถิ่นฐาน ออกจากพื้นที่เพื่อให้มีการก่อสร้างเขื่อน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม สนองโครงการในพระราชดำริของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีพระราชดำริให้สร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขึ้นในสมัยนั้น ด้วยความภาคภูมิใจของคนในชุมชนอีกด้วย จึงต้องปล่อยให้องค์พระจมน้ำอยู่ตามเดิม
ใจรัก วงศ์ใหญ่ สมชาย เกตุฉาย ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี