เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ชาวฝรั่งเศสเดินทางไปชุมนุมไว้อาลัยให้เหยื่อบนถนนสายมรณะที่เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่โดยคนร้ายขับรถบรรทุกหนัก 19 ตันพุ่งชนผู้คนที่ไปร่วมฉลองวันชาติฝรั่งเศส เสียชีวิต 84 ราย บาดเจ็บ 300 ราย ในคืนวันที่ 14 ก.ค.
ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า มีชาวฝรั่งเศสส่วนหนึ่งตะโกนโห่นายมานูเอล วาลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ด้วยอารมณ์โกรธแค้น ว่า “ฆาตกร” และ “ลาออกไป” หลังจากรัฐบาลไม่อาจคุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชนได้ จนเหตุการณ์นี้เป็นเหตุก่อการร้ายใหญ่ครั้งที่ 3 ในรอบ 18 เดือน นับจากเหตุสังหารหมู่กองบ.ก.ชาร์ลี เอบโดและเหตุต่อเนื่อง มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ตามด้วยเหตุวินาศกรรมรอบกรุงปารีส วันที่ 13 พ.ย. 2558 มีผู้เสียชีวิต 130 ราย
สำหรับผลการสอบสวนคดีซิ่งรถไล่สังหารหมู่ พบว่า นายโมฮาเหม็ด ลาฮูเวจ บูฮ์เลล ผู้ก่อเหตุ อายุ 31 ปี เชื้อสายตูนิเซียที่อาศัยอยู่ในเมืองนีซ ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์เผยความดีใจที่ได้ปืนสั้นกระบอกที่ต่อมาใช้ยิงใส่ตำรวจ และพยายามขออาวุธปืนชนิดอื่นอีก ทั้งยังถ่ายเซลฟี่กับรถบรรทุกคันที่กำลังจะขับไปก่อเหตุด้วย
ตำรวจยังควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ได้แล้ว 6 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวอัลเบเนียอายุ 38 ปี ผู้จัดหาอาวุธปืนสั้นกระบอกดังกล่าวให้นายบูฮ์เลล