ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังว่าพบโรคใบด่างระบาดในไร่มันฯใพื้นที่ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังได้รับแจ้งลงพื้นที่ตรวจสอบ
ไร่มันสำปะหลังตามที่แจ้ง ในไร่มันฯพบต้นมันฯอายุ 5-6 เดือนมีใบ้เหงิกงอนายเพชรสิน ชำนาญปืน และนางกัญญารัตน์ศิริ หนึ่งในเกษตรกรในพื้นที่ที่พบเห็นโรคใบด่างในไร่มันฯ จึงรีบจัดการกำจัดแมลงหวี่ขาวซึ่งเป็นตัวแพร่เชื่อโรคระบาดโดยการตัดต้นมันสำปะหลังออกจากแปลงเพื่อนำไปเผาทำลายแมลงหวี่ขาวแมลงหวี่ข่าวจะกัดกินน้ำเลี้ยงอ่อนของต้นมันสำปะหลัง หลังจากต้นมันสำปะหลังถูกแมลงชนิดนี้กัดกินน้ำเลี้ยงจะทำให้ต้นมันยืนต้นแห้งตาย ส่งผลให้หัวมันไม่โต เกษตรกรจะขาดทุนทั้งน้ำหนักหายและต้อง
หาซื้อต้นพันธุ์มาปลูกแมลงหวี่ข่าวจะตัวเล็กมากมองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่เห็น อยู่กัน
เป็นกลุ่มใหญ่อาศัยกัดกินน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อนของต้นมันเป็นอาหารแมลงหวี่ขาวระบาดเร็วมากเพียงข้ามคืนจะส่งผลให้ยอดอ่อนมันสำปะหลังหงิกงอ จากนั้นใบจะเริ่มเปลี่ยนสี
เขียวด่างและสีเหลืองและน้ำตาลผู้สื่อข่าวได้ตระเวนสำรวจพื้นแต่ละตำบลพบว่ามีการระบาดของโรคใบด่าง ใน ต.เมืองเก่า ต.ลาดตะเคียนบางส่วนจึงได้เข้าพบกับเกษตรอำเภอกบินทร์บุรี นายก่อเกรียติ สมานพันธุ์ เกษตรอำเภอกบินทร์บุรี มอบหมายให้นายสมพงษ์พรมที นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฎิบัติการ ให้คำแนะนำเกษตรชาวไร่มันฯว่า
หากเกษตรกรฯพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคใบด่างให้กำจัดทันที โดยตัดต้นและใบใส่
ถุงดำหรือภาชนะอื่นที่หาได้ใส่ถุงมัดปากจะทำให้แมลงศัตรูพืชชนิดนี้ตายไป หรือฉีดพ่นน้ำยาสูบไม่ควรนำต้นมันในแปลงที่มีการระบาดมาทำพันธุ์อาจจะมีไข่แมลงหวี่
ขาวติดอยู่ตามต้น อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในครั้งต่อไป หากเกษตรกรที่มีปัญหาใน
ไร่มันฯให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลจะได้ลงพื้นที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลืออย่างรีบ
ด่วน หรือติดต่อทางหมายเลขโทรศัพท์ 037-283-963 เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะแก่
เกษตรกรทุกคน…
ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์