ตุรกีตึงเครียด ประชาชนสับสนหนัก กองทัพพยายามก่อรัฐประหารยึดอำนาจปกครองประเทศ ประกาศเคอร์ฟิวและกฎอัยการศึก แต่ฝ่ายรัฐบาลประธานาธิบดีเออร์โดแกน ไม่ยอมแพพ้จนเกิดการยิงปะทะอย่างดุเดือดระหว่างทหาร และกองกำลังเจ้าหน้าที่ยังภัคดีต่อรัฐบาล รวมทั้งประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 16 ก.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในตุรกี เกิดเหตุการณ์กองทัพตุรกีพยายามก่อรัฐประหารยึดอำนาจประธานาธิบดี เรเซป เทยิบ เออร์โดแกน เมื่อวันที่ 15 ก.ค. โดยอ้างว่ากองทัพสามารถยึดครองประเทศได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมประกาศใช้กฎอัยการศึก และประกาศภาวะเคอร์ฟิวส์ ห้ามประชาชนออกนอกบ้านในยามวิกาล ทว่าทางฝ่ายรัฐบาล ไม่ยอมแพ้ จนทำให้เกิดการปะทะ การยิงต่อสู้กันระหว่างกองกำลังทหาร กับกองกำลังตำรวจและประชาชนที่ยังภัคดีต่อประธานาธิบดี เออร์โดแกน ในกรุงอังการา เมืองหลวง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
ข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ในกรุงอังการยังคงตึงเครียด หลังกองทัพออกมาทำรัฐประหาร เพราะท่ามกลางเสียงปืนดังกึกก้อง ยังมีเครื่องบินรบของกองทัพบินเวียนเหนือน่านฟ้าในกรุงอังการา และมีรถถังหลายคันออกมาแล่นบนท้องถนน และเมืองอิสตันบูล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดของตุรกี ขณะเดียวกัน กองทัพได้ส่งกำลังทหารปิดสะพานบอสฟอรัส และสุลต่านฟาห์ติ เมห์เหม็ด ซึ่งเป็นเส้นทางข้ามช่องแคบบอสฟอรัส หรือช่องแคบอิสตันบูล ความยาว 30 ก.ม. ที่กั้นระหว่างยุโรป กับตุรกีบนคาบสมุทรอานาโตเลียในทวีปเอเชีย
นายกฯ บินาลี ยิลดิริม แห่งตุรกี ได้เตือนบรรดาทหารที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจว่า มีราคาที่ต้องจ่ายสูงสุด เพราะรัฐบาลจะไม่ยอมให้ใครมายับยั้งขัดขวางประชาธิปไตยในประเทศ ขณะนี้สถานการณ์ภายในประเทศส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล มีการประกาศเขตห้ามบินเหนือกรุงอังการา
ด้านBBC รายงานว่ามีเสียงระเบิดดังสนั่นสองครั้งใกล้จตุรัสทัคซิมในนครอิสตันบูล และเกิดเหตุระเบิดหลายลูกที่อาคารรัฐสภาในกรุงอังการา โดยขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทหารคนใดเป็นผู้นำในการก่อรัฐประหารยึดอำนาจ และยังไม่ทราบว่ามีทหารสนับสนุนจำนวนมากเท่าใด