วันนี้ วันพฤหัสบดีที่ 1 ส.ค.62 เวลาประมาณ 14.15 น. : พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.กก.1 บก.ป. สนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.ท.ศิลา ขำเพชร สว.ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล พร้อมกำลังตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เข้าทำการจับกุม นายนพรุจ คชโคตร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 141/2562 ลง 5 ก.ค.62 กระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ผู้อื่น” บริเวณทางหลวงหมายเลข 212 หน้าร้านแม็คโดนัลสาขาบิ๊กซี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
ในการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้นายนพรุจฯ ซึ่งมีอาชีพเป็นเซลล์ขายรถฟรีแลนซ์ ได้ก่อเหตุขโมยรถยนต์ของผู้เสียหายรายหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยทำทีเข้าไปติดต่อเสนอขายรถยนต์กระบะป้ายแดงยี่ห้อหนึ่งให้กับผู้เสียหาย พร้อมกับเสนอโปรโมชั่นลดราคาต่างๆ หากมาทำการซื้อรถผ่านตนเอง เมื่อผู้เสียหายสนใจอยากซื้อรถ นายนพรุจฯ ก็จะทำทีเสนอแนะให้ผู้เสียหายนำรถยนต์คันเก่าที่ใช้งานอยู่ไปขายเพื่อนำเงินมาสมทบซื้อคันใหม่ และตนเองจะอาสาเป็นผู้นำรถไปขายให้ โดยอ้างว่ามีเต็นท์รถมือสองที่รู้จักกันให้ราคาดีกว่าเต็นท์รถมือสองทั่วไป โดยจะตีมูลค่าราคารถของผู้เสียหายให้ประมาณเกือบ 2 แสนบาท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อมอบรถยนต์ให้กับนายนพรุจฯ เพื่อนำไปขายต่อให้ แต่เมื่อนายนพรุจฯ ได้รถยนต์จากผู้เสียหายไปแล้วกลับเชิดรถแล้วหลบหนีขาดหายการติดต่อไป ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางพลี กระทั่งมีการออกหมายจับดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้ทำการสืบสวนติดตามตัวนายนพรุจฯ โดยใช้วิธีการทักแชทไปหานายนพรุจฯ และทำทีว่าต้องการที่จะขายรถ เพื่อนำเงินไปออกรถคันใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อพูดคุยกับ นายนพรุจฯ จนกระทั่งทราบว่า นายนพรุจฯ ได้หลบหนีมาทำงานอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี จึงได้ประสานไปยัง ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ให้นำกำลังเข้าทำการร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา
จากการสอบสวนนายนพรุจฯ ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาจะขโมยรถยนต์ของผู้เสียหาย แต่ยอมรับว่าได้นำรถยนต์ของผู้เสียหายไปขายให้เต็นท์รถแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยได้เงินมาประมาณ 1.7 แสนบาท และตั้งใจจะนำเงินดังกล่าวไปให้กับผู้เสียหายใช้เป็นทุนซื้อรถคันใหม่ แต่ระหว่างนั้นได้มีเพื่อนสนิทคนหนึ่งมาขอยืมเงินกับตนโดยตนเกิดความจำเป็นต้องใช้เงินพอดีจึงได้นำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายธุระของตัวเองจนหมด จึงทำให้ต้องหลบหนีเพื่อไปทำงานหาเงินมาใช้คืนให้กับผู้เสียหาย จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน