วันนี้ วันเสาร์ที่ 27 ก.ค.62 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) : พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. แล พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมจับกุมตัว นายละ วรรณพิรุณ อายุ 81 ปี อดีตพระวัดโคกหัวข้าว หมู่ 3 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.99/2550 ลงวันที่ 24 ม.ค.2550 ข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร,กระทำชำเราเด็กหญิงยังไม่ถึงสิบห้าปีซึ่งมิใช้ภรรยาตน,กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีโดยจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในวัดโคกหัวข้าว หมู่ที่ 3 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
พ.ต.อ.อรุณฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.44 นายละฯ ผู้ต้องหาซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระภิกษุอยู่ ได้พา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ขณะนั้นอายุ 13 ปี ขึ้นรถโดยสารไปที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนพาไปบ้านญาติของ นายละฯ และในคืนดังกล่าวมีการเลี้ยงฉลองกัน จากนั้น นายละฯ ได้ให้ ด.ญ.เอฯ ดื่มเบียร์ 2 แก้วจนมึนเมาแล้วลงมือข่มขืนกระทำชำเรา ต่อมาเช้าวันรุ่งขึ้น ด.ญ.เอฯ ตื่นมาก็รู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ แต่ นายละฯ ได้เข้าไปกอดและหอมแก้มพร้อมกับพูดปลอบใจว่า หาก ด.ญ.เอฯ ท้องก็จะรับผิดชอบเอง
พ.ต.อ.อรุณฯ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค.44 นายละฯ ได้พา ด.ญ.เอฯ กลับมาที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนมารดา ของด.ญ.เอฯ ได้พบด.ญ.เอฯ อยู่กับ นายละฯ สองต่อสอง จึงสอบถามจนทราบว่าถูกนายละฯ ข่มขืนกระทำชำเรา มารดาจึงได้พา ด.ญ.เอฯ ไปให้แพทย์ตรวจแล้วพาเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายละฯ ได้หลบหนีมาบวชอยู่ที่วัดโคกหัวข้าว ใน จ.ฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายละฯ ให้การปฏิเสธ ว่าได้บวชเป็นพระตั้งแต่อายุ 35 ปี ต่อมารู้จักกับ ด.ญ.เอฯ ตอนตนอายุประมาณ 60 กว่าปี โดย ด.ญ.เอฯ กับบิดาและมารดา มักจะมาทำบุญกับตนเป็นประจำที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยตอนนั้น ด.ญ.เอฯ ได้มาชอบพอตน ในวันเกิดเหตุขณะกำลังจะเดินทางไปบ้านญาติ ที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ด.ญ.เอฯ ได้วิ่งขึ้นรถโดยสารขอตามไปด้วย ทั้งที่ตนเองได้ห้ามไว้แล้ว แต่ด.ญ.เอฯ ไม่เชื่อฟัง เมื่อถึงบ้านญาติของตน ด.ญ.เอฯ ได้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว 2 วัน โดยไม่ได้กระทำอนาจารเด็กแต่อย่างใด จากนั้นได้พาเด็กหญิงมาส่ง และตนเองได้ลาสิกขาแล้วเดินทางมาที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และพบกับ มารดาของ ด.ญ.เอฯ หลังจากนั้นอีก 2 เดือน ตนก็ได้บวช และได้จำพรรษาอยู่หลายที่และมาจำพรรษาอยู่วัดโคกหัวข้าวเป็นเวลา 8 ปี โดยไม่ทราบว่ามีหมายจับ ซึ่งคดีกำลังจะหมดอายุความอีก 2 ปี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน