เอเอฟพี – เผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรถบรรทุกพุ่งชนกลางงานวันชาติฝรั่งเศสที่เมืองนีซ (Nice) เพิ่มเป็นอย่างน้อย 80 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยล่าสุดตำรวจพบเอกสารที่ระบุชื่อชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายตูนิเซีย วัย 31 ปี อยู่ภายในรถคันก่อเหตุ ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกมายืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่าย “ก่อการร้าย” และจะขยายเวลาบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินต่อไปอีก 3 เดือน
คนขับรถบรรทุกรายนี้ถูกยิงเสียชีวิต หลังนำรถขับตะลุยฝ่าฝูงชนที่มาร่วมฉลองวันชาติบนเส้นทางเลียบชายหาด โพรเมอนาด เดซ็องเกลส์ (Promenade des Anglais) เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จนทำให้ผู้คนหลายร้อยต้องวิ่งหนีตายอลหม่าน ส่วนผู้เคราะห์ร้ายที่หนีไม่ทันก็ต้องกลายเป็นศพเกลื่อนถนน
“ชายคนหนึ่งขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ฝูงชน แต่เขาถูกตำรวจสังหารแล้ว” ปิแอร์-อ็องรี บร็องเดต์ โฆษกกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสแถลง
ตำรวจพบเอกสารระบุชื่อชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายตูนิเซีย อายุ 31 ปี อยู่ภายในรถบรรทุกคันก่อเหตุ รวมถึง “ปืน” และ “อาวุธที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้น” อีกจำนวนหนึ่ง
เหตุนองเลือดครั้งนี้เกิดขึ้นในวันบาสตีย์ (Bastille Day) ซึ่งเป็นวันที่ชาวฝรั่งเศสจะร่วมกันเฉลิมฉลองความเป็นสาธารณรัฐ ตลอดจนคำขวัญ “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” ที่พวกเขาเชิดชู
เหตุโจมตีที่เมืองนีซเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ฝรั่งเศสได้จัดพิธีสวนสนามกองทัพอย่างยิ่งใหญ่บนถนนฌองส์-เอลิเซ ในกรุงปารีส
สื่อมวลชนแพร่ภาพด้านหน้ารถบรรทุกที่ถูกกระสุนปืนตำรวจยิงใส่จนพรุน และรถอยู่ในสภาพยางแตก เสียหายอย่างหนัก
โรเบิร์ต ฮัลโลเวย์ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีซึ่งเห็นเหตุการณ์ขณะที่รถบรรทุกตีนผีพุ่งเข้าใส่ฝูงชนด้วยความเร็วสูง เล่าสถานการณ์ในเวลานั้นว่าเป็น “ความโกลาหลสุดขีด”
“เราเห็นผู้คนมากมายถูกรถชน มีเศษสิ่งของกระจัดกระจาย และผมเองก็ต้องพยายามป้องกันใบหน้าจากเศษวัสดุเหล่านั้น”