“น้องเมย์” ลุ้นระทึก รอผลชี้ขาดสหพันธ์แบดโลกฯ ถกด่วน 15-17 ก.ค.นี้ หลังองค์การต่อต้านสารกระตุ้น (วาดา) ตรวจพบสารกระตุ้น “สเตียรอยด์” ขณะที่ สมาคมแบดไทยฯ วอนอย่าเป็นข่าวทำลายขวัญนักแบดสาวขวัญใจชาวไทย ยันเร่งประสานช่วยเหลือทุกด้าน ส่วน “ผู้ว่าฯ กกท.” มั่นใจน้องเมย์ไม่ผิด ยันใช้สารสเตียรอยด์แค่รักษาเข่าบาดเจ็บ ไม่ใช่มุ่งเอาชนะคู่แข่งขัน ยังมั่นใจได้ไปต่อโอลิมปิกแน่ “น้องเมย์” เก็บตัวเงียบ โพสต์ไอจีสุดเศร้า “ฉันกำลังจะหายไป” ขณะที่แฟนหนุ่มโพสต์ให้กำลังใจ ขอให้เข้มแข็ง-อดทนหวังว่าจะผ่านไปด้วยดี
จากกรณีมีกระแสข่าว “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 4 ของโลก ถูกตรวจพบสารต้องห้าม หลังจบศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก “อูเบอร์ คัพ” พี่จีนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และมีโอกาสถูกตัดสิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 5-21 ส.ค.ที่บราซิล
ล่าสุด ผู้บริหารสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ รวมถึง คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจและประสานกับ สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ (บีดับเบิลยูเอฟ) ทันทีที่ทราบข่าวตลอด 3 วันที่ผ่านมา พร้อมขอร้องให้สื่อมวลชนรอการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติอย่างเป็นทางการก่อน เพื่อประโยชน์ต่อตัวนักกีฬาและประเทศไทยในโอกาสไปแข่งขันโอลิมปิก ยังไม่ขอให้ข่าวกับทุกสื่อแต่อย่างใด เพราะอาจส่งผลต่อการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งเมื่อได้ทราบการประกาศแล้ว สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยจะจัดให้มีการแถลงข่าวแน่นอน นอกจากนี้สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติฯ ก็ห้ามสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ให้ข่าวใดๆ จนกว่าทุกอย่างจะมีผลเป็นทางการ มิเช่นนั้นจะเป็นผลเสียต่อนักกีฬาเอง อย่างไรก็ตามนักกีฬาแบดมินตันชุดโอลิมปิกเกมส์อีก 6 คนยังคงมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังลุ้นเหรียญรางวัลตามเป้าหมายของสมาคมฯ และประเทศชาติต่อไป
ด้าน “บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้สหพนธ์แบดมินตันนานานาชาติขอมาว่าทางไทยอย่าเพิ่งออกข่าว เพราะมีปัญหากับสภาพจิตใจของน้องเมย์เองด้วย ซึ่งคาดว่าสารโด๊ปที่พบน่าจะเป็นที่มีอยู่ในยารักษาอาการบาดเจ็บของน้องเมย์ และมั่นใจว่าน้องเมย์จะได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล ในวันที่ 5-21 ส.ค.แน่นอน ทาง กกท.พร้อมให้การช่วยเหลือทุกด้าน
“กรณีของน้องเมย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแค่เพียงสงสัย แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าทีมงานและน้องเมย์ระวังเรื่องนี้อยู่แล้ว พวกสารโด๊ปเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องระวัง นอกจากนี้ทางสหพันธ์ฯ ยังต้องการให้นักกีฬามืออันดับ 1-5 ไปแข่งโอลิมปิกด้วย แต่การพบครั้งนี้มาจากทีมตรวจโด๊ปของจีนในรายการอูเบอร์คัพ แต่คาดว่าทางจีนคงไม่ได้กลั่นแกล้ง เพราะมันเป็นเรื่องของสปิริตและความมีน้ำใจ ส่วนตัวมั่นใจในตัวน้องเมย์ว่าไม่ผิด ตอนนี้ได้บอกให้ฝึกซ้อมตามปกติ ไม่อยากให้กระทบกระเทือนจิตใจ ทางสมาคมฯ, กกท. และคณะกรรมการ อลป.จะช่วยเตรียมข้อมูลในเรื่องนี้ ทุกๆ ด้าน”
นายสกล กล่าวว่า ทางองค์การต่อต้านสารกระตุ้นโลก (วาดา) และสหพันธ์แบดมินตันฯ จะมีการหารือในเรื่องนี้ ในการประชุมวันที่ 15-17 ก.ค.เพื่อดูว่าเป็นยาชนิดไหน ที่ตรวจพบ ซึ่งยา “สเตียรอยด์” มีหลายประเภท ต้องดูว่า ยา “สเตียรอยด์” ที่พบเป็นชนิดไหน ถ้าไม่เกี่ยวกับการแข่งขันเพื่อให้เหนือกว่าคนอื่นไม่น่าจะเป็นอะไร ถ้าเป็นแค่การรักษาอาการบาดเจ็บ อาจจะมีการคอนเฟอเรนซ์มาถามในการประชุม ตอนนี้ในส่วนของกีฬาชนิดอื่นทั้ง 52 คน ที่ไปโอลิมปิก 2016 ทาง กกท.ได้เตือนให้ระวังเรื่องฉีดยาและทานยา ระวังเรื่องอาการบาดเจ็บ เรามีการเก็บสารตรวจโด๊ป ไว้อยู่แล้วจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน
ด้านนายเจน ปิยะทัต ที่ปรึกษาสโมสรแบดมินตันแกรนนูลาร์ ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการแบดมินตันมาอย่างยาวนาน เปิดเผยว่าสาเหตุของการตรวจพบสารกระตุ้นในครั้งนี้ มาจากการแข่งขันประเภททีมหญิงชิงแชมป์โลก อูเบอร์คัพ เมื่อเดือนพ.ค.ที่เมืองคูชาน ประเทศจีน โดยก่อนการแข่งขัน “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ได้รักษาอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ภายใต้การดูแลของสมาคมแบดมินตันฯ ทว่าไม่มีการแจ้งกับ “วาดา-เอเชีย” ว่ามีการใช้ยาตัวใดรักษา ทำให้ส่งผลกระทบมาถึงขนไก่สาวมือ 1 ของไทย
“การแข่งขันครั้งนั้น เป็นการแข่งในนามทีมชาติไทย ซึ่งมีการตรวจสารกระตุ้นก่อนแข่งขันอยู่แล้ว และมีเจ้าหน้าที่ของทางสมาคมฯ ตามไปดูแล และให้ข้อมูลที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการตรวจ เพราะจะต้องมีการกรอกแบบสอบถามว่า “ก่อนแข่งกินยาอะไรมาบ้าง หรือมีการรักษาอาการต่างๆ โดยยาชนิดใด” ซึ่งทีมแพทย์ประจำที่ได้รับการแต่งตั้งจากทางสมาคมฯ ต้องเป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลือให้กับนักกีฬา
“ในฐานะที่แกรนนูลาร์ ส่งนักกีฬาไปแข่งขันต่างประเทศเป็นประจำ และนักกีฬาก็ต้องผ่านการรักษาอาการบาดเจ็บมาทั้งสิ้น ส่วนตัวผมมีหน้าที่เข้าไปชี้แจงว่าได้ใช้ตัวยาใดรักษาไปบ้าง ซึ่งอาการบาดเจ็บหัวเข่าเช่นเดียวกันนั้น จะใช้ตัวยา “สเตียรอยด์” ในการรักษา ซึ่งอยู่ในข่ายของสารกระตุ้น แต่ถ้ามีการแจ้งก่อนตรวจ ฝ่ายจัดก็จะดูว่าเป็นการใช้เพื่อการรักษาจริงหรือไม่ ซึ่งกรณีของน้องเมย์ไม่มีใครไปแจ้ง ทำให้ถูกลงโทษไปตามกฎระเบียบ”
นายเจน กล่าวว่าหากได้รับการยืนยันว่าผิดจริงๆ โทษคือการโดนแบนถึง 4 ปี ซึ่งจะมีผลทันที ทำให้มีโอกาสที่จะถูกถอนตัวจากการแข่งขัน โอลิมปิก 2016 ในเดือนส.ค.นี้ด้วย อย่างกรณีของ ลี ชอง เหว่ย นักแบดมินตันชายเดี่ยวชาวมาเลเซีย ต้องโทษแบน 2 ปี แต่สมาคมฯ ของเขาได้ยื่นเอกสารยืนยันว่ามีการใช้ยาเพื่อการรักษา ทำให้เหลือโทษแบนเพียง 8 เดือน ดังนั้นหากต้องการช่วยน้องเมย์เบื้องต้น คือให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ช่วยยืนยันผลการรักษา ซึ่งโทษจะได้รับน้อยลง แต่คิดว่าคงจะไม่ทันการแข่งขันโอลิมปิกที่จะมาถึงอย่างแน่นอน
น.พ.มีชัย อินวู๊ด ผอ.กองกีฬาเวชศาสตร์ ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. ในฐานะแพทย์ประจำทัพนักกีฬาไทย ในการสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2016 เปิดเผยว่า ขั้นตอนในการตรวจหาสารต้องห้ามทัพนักกีฬาไทยระหว่างการเก็บตัวฝึกซ้อมก่อนเดินทางไปแข่งขันนั้น ไม่มีนักกีฬาคนใดพบการใช้สารต้องห้าม และได้ส่งผลการตรวจสารต้องห้ามไปถึงคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เรียบร้อยแล้ว แต่ในกรณีของ รัชนก อินทนนท์ เป็นการตรวจพบก่อนหน้านี้ จึงได้ทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าใช้เพื่อการรักษา และอยู่ระหว่างฟังผลว่าจะสามารถช่วยนักกีฬาได้หรือไม่
“เวลานี้ได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะของนักกีฬาทุกคนเสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่พบว่ามีการใช้สารต้องห้ามแต่อย่างใด ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันผลการตรวจสารต้องห้ามไปถึงไอโอซีเรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไอโอซีได้ส่งหนังสือกลับมายังประเทศไทย รวมถึงอีกหลายๆ ชาติให้ดำเนินการตรวจหาสารต้องห้ามในนักกีฬาอีกรอบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินทางไปแข่งขัน ซึ่งมีการเจาะจงชนิดกีฬาที่สุ่มเสี่ยงต่อการใช้สารต้องห้ามในข้อมูลที่ไอโอซีมีอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้”
น.พ.มีชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ไทยจะดำเนินการตามที่ไอโอซีสั่งการมา และยืนยันผลกลับไป และหวังว่าจะช่วยเหลือนักกีฬาที่กำลังได้รับผลกระทบอยู่ได้ จึงขอเตือนนักกีฬาไทยทุกคนว่า นับจากนี้เป็นต้นไปจนถึงแข่งขันจบที่ประเทศบราซิลจะกินยาหรืออาหารเสริม หรือจะฉีดยาใดๆ เข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บ หรือรักษาอาการเจ็บป่วย ต้องอยู่ในความดูแลของฝ่ายแพทย์ประจำทัพนักกีฬาไทยอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ยังเก็บตัวเงียบ หลังจากโพสต์อินสตาแกรมของตัวเอง ratchanokmay เป็นรูปดวงดาวบนท้องฟ้า พร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า I’m faded (ฉันกำลังจะหายไป) หลังจากนั้นก็มีแฟนกีฬาแบดมินตันมาให้กำลังใจอย่างมากมาย เช่นเดียวกับต้นสังกัดบ้านทองหยอด ไม่ออกมาให้ข่าวใดๆ ทั้งสิ้น
ด้าน “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม แฟนหนุ่มของน้องเมย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักแบดมินตันของสโมสรแกรนนูลาร์ ได้โพสต์อินสตาแกรม pannawit_t พร้อมรูปคู่กอดน้องเมย์ว่า “ไม่รู้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่จะขอให้มันผ่านไปด้วยดี จะอยู่ข้างๆ เสมอ เข้มแข็งและอดทนเหมือนที่เธอทำมาตลอด รัชนก #กำลังใจเพื่อเมย์ #Bestrong#nevergiveup”
ขณะที่ในความคิดเห็นทางโลกออนไลน์ ทั้งการโพสต์เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ส่วนใหญ่จะเป็นการให้กำลังใจน้องเมย์ มีเพียงส่วนน้อยที่โทษว่าเป็นความผิดของทางฝ่ายแพทย์ ที่ไม่ให้ข้อมูลกับทางฝ่ายตรวจโด๊ปของเจ้าภาพในการแข่งขันแบดมินตันอูเบอร์คัพที่จีน