สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.ค.) ดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า130จุด หลังตลาดขานรับการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า แม้ว่าการประชุมวานนี้จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อนก็ตาม ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2% ก็ช่วยหนุนตลาดอีกทางด้วย
หลังดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 18,506.41 จุดบวก 134.29 จุด หรือ +0.73% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ระดับ 5,034.06 จุด บวก 28.33 จุด หรือ +0.57% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ระดับ 2,163.75 จุด บวก 11.32 จุด หรือ +0.53%
ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์กงวดส่งมอบเดือนส.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดตลาดที่ระดับ 45.68 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.ที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดตลาดที่ระดับ 47.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 11.40 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ไปปิดตลาดที่ระดับ 1,332.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำลง