เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ก.ค.62 ที่ห้องแถลงข่าว สตม.สวนพลู : พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์,พลตำรวจตรี กฤษกร พลีธัญญวงศ์,พลตำรวจตรี อิทธิพล อิทธิสารรณชัย,พลตำรวจตรี ณฐพล แสวงกิจ,พลตำรวจตรี สรายุทธ สงวนโภคัย รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองผบช.สตม.),พลตำรวจตรี สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รองผบช.ภ.7) ปฏิบัติราชการ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองผบช.สตม.),พลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม 3),,พันตำรวจเอก ภาส สิริสุขะรองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (รองผบก.ตม.3) และพันตำรวจเอก สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี (ผกก.ตม.จ.ชลบุรี)ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดี
โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ค.62 เวลาประมาณ 20.30 น เจ้าหน้าที่ตม.จ.ชลบุรี บูรณาการกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ่อวิน,ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการสันติบาล สืบเนื่องมาจากได้รับแจ้งว่าบริเวณรอบๆ ตลาดสดเมืองทองแลนด์ ม.3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มักมีกลุ่มหญิงต่างด้าวมาแอบแฝงทำงานเป็นหญิงบริการ และกระทำการค้าประเวณี ลักษณะนุ่งน้อยห่มน้อยด้วยเครื่องแต่งกายน้อยชิ้น
มีการรบเร้าผู้คนที่เดินผ่านไปมาละแวกนั้น บางคนชักชวนให้ผู้ที่สัญจรไปมาไปมีเพศสัมพันธ์โดยจะมีคนไทยคอยควบคุมอยู่ จึงได้วางแผนจับกุมโดยใช้วีธีล่อซื้อบริการดังกล่าวโดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้าไปซื้อบริการ โดยตกลงซื้อบริการในราคา 1,000.- บาท/คน/ครั้ง และคิดค่าพาหนะ (มอร์เตอร์ไซด์) อีก 20 บาทเพื่อพาไปยังสถานที่หลับนอนซึ่งห่างออกไปอีกประมาณ 200 เมตร
จากการเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าวสามารถการจับกุมคนไทยจำนวน 2 คน คือ นายประเดิม โพธิ์เย็น อายุ 61 ปี และนายโกวิทย์ สือพัฒธิมา อายุ 35 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลและเก็บเงิน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม,ร่วมกันเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม,รับบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
และสามารถจับกุมหญิงสาวสัญชาติลาวซึ่งยืนเสนอขายบริการบริเวณรอบๆ ตลาดสดเมืองทองแลนด์ ม.3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จำนวน 16 คน โดยดำเนินคดีในข้อหา“ ติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม รบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถานหรือสถานที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณี อันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอายหรือเป็นที่เดือดร้อนแก่สาธารณชน ”นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังจากดำเนินคดีกับหญิงสาวชาวลาวแล้วก็จะเพิกถอนวีซ่า และบันทึกเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในประเทศไทยอีกต่อไป
ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมี เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน