สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ยาน “จูโน” ซึ่งเป็นยานโคจรสำรวจดาวพฤหัสบดีขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(นาซา) กำลังเคลื่อนเข้าใกล้วงโคจรของดาวพฤหัสบดีแล้ว โดยในวันที่ 4 และ 5 กรกฎาคมนี้ ยานจะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาว และจะโคจรวนรอบเพื่อสำรวจเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีนับจากนี้
นาซาทุ่มงบประมาณในโครงการสำรวจดาวพฤหัสบดีด้วยยานจูโนถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยยานขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์ที่มีขนาดใหญ่เท่าสนามบาสเก็ตบอล “จูโน” ออกเดินทางจากโลกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2011 และใช้เวลา 5 ปีเดินทางจากโลกไปถึงดาวพฤหัสบดี
ทั้งนี้ หากยานจูโนเข้าสู่วงโคจรสำเร็จ ภารกิจต่อไปคือการค้นหาและเก็บข้อมูลปริมาณน้ำบนดาวพฤหัสบดี โครงสร้างด้านในของดาว รวมทั้งข้อมูลของสนามแม่เหล็กที่ห่อหุ้มดาวอยู่ซึ่งมีความรุนแรงที่สุดในระบบสุริยะ ข้อมูลที่ได้จะช่วยไขข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของสุริยจักรวาล โดยเฉพาะในส่วนของดวงดาวที่ก่อตัวในบริเวณที่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์
ทั้งนี้ ยานจูโนไม่ใช่ยานโคจรสำรวจดาวพฤหัสบดีลำแรกขององค์การนาซา แต่เป็นยานกาลิเลโอ ซึ่งออกเดินทางไปยังดาวพฤหัสบดีเมื่อปี ค.ศ.1989 อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ยานจูโนจะโคจรเข้าใกล้พื้นผิวของดาวมากกว่ายานกาลิเลโอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะซึ่งห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 5 มีชั้นบรรยากาศที่เป็นพิษประกอบด้วยก๊าซไฮโดรเจน ฮีเลียม และกัมมันตรังสีสูงกว่าระดับที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ถึงกว่า 1,000 เท่า ขณะเดียวกันวัดกันที่เส้นผ่านศูนย์กลาง ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่มีขนาดใหญ่กว่าโลก 11 เท่า เฉพาะจุดสีแดงใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของดาว มีขนาดใหญ่กว่าโลกราว 3 เท่า