การสำรวจล่าสุดพบว่าจำนวนผู้ใช้โปรแกรมปิดกั้นโฆษณาหรือ ad blocker ในสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นเป็น 87 ล้านคนในปีหน้า คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 24% จากตัวเลขประเมินสำหรับปีนี้
การประเมินนี้เป็นผลการวิจัยของบริษัท eMarketer ซึ่งพบว่าเหล่า publisher กำลังมีหนามตำใจเพิ่มขึ้นจากความนิยมของโปรแกรมประเภท ad blocker โดยการประเมินนี้ครอบคลุมการใช้งานโปรแกรมปิดกั้นโฆษณาออนไลน์ทั้งบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์วางตัก และอุปกรณ์พกพา
ปัจจุบัน รายงานประเมินว่าสหรัฐอเมริกามีผู้ใช้ ad blocker จำนวน 69.8 ล้านคนปีนี้ ตัวเลขนี้คำนวณแล้วพบว่าผู้ใช้ ad blocker ต่อไตรมาสมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในปีที่แล้ว
ตัวเลข 87 ล้านคนนี้คิดเป็นสัดส่วน 32% ของประชากรออนไลน์รวมในสหรัฐอเมริกา รายงานชี้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ ad blocker บนคอมพิวเตอร์พีซี (ราว 23.8%) จุดนี้เชื่อว่าแนวโน้มการใช้บนอุปกรณ์อื่นๆจะขยายตัวเช่นกันในอนาคต
การสำรวจพบว่าปี 2016 นี้ ประชากรออนไลน์อเมริกัน 7.8% จะติดตั้ง ad blocker บนสมาร์ทโฟน สัดส่วนนี้ eMarketer มั่นใจว่าจะเพิ่มเป็น 11% ในปีหน้า
Paul Verna นักวิเคราะห์อาวุโสของ eMarketer อธิบายว่าโปรแกรม Ad blocker นั้นเป็นที่นิยมใช้ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั้งเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป เนื่องจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่พอกับการแสดงโฆษณาจำนวนมาก ความเพียงพอนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้ใช้รำคาญโฆษณาที่เจ้าของเว็บไซต์จัดเต็มแสดงบ่อยครั้ง
นอกจากนี้ ad blocker หลายค่ายยังไม่มีผลบนแอปพลิเคชัน ทั้งหมดนี้เอื้อให้ eMarketer สรุปว่านักการตลาด เอเจนซี่ และเหล่า publisher ต้องตื่นตัวกับการแก้ไขวิกฤติที่เกิดขึ้นให้ทันท่วงที เพื่อให้ผู้บริโภคเปลี่ยนใจหยุดใช้งาน ad blocker
