26 พ.ค.2562 – มีรายงานว่าพล.อ.เปรมติณสูลานนท์ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษในวัยย่าง99 ปีได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วที่รพ.พระมงกุฎเกล้า
ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ05.00 น. นายทหารประจำบ้านสี่เสาเทเวศร์ได้นำพล.อ.เปรมส่งรพ.พระมงกุฎฯเพื่อรักษาอาการด่วนแต่ในเวลาประมาณ09.00 น. พล.อ.เปรมก็ถึงอสัญกรรมอย่างสงบ
สำหรับประวัติของพล.อ.เปรมเกิดเมื่อวันที่26 ส.ค. 2463 ที่ต.บ่อยางอ.เมืองสงขลาจ.สงขลาโดยชื่อเปรมนั้นพระรัตนธัชมุนี(แบนคณฺฐาภรโณ) เป็นผู้ตั้งให้ส่วนนามสกุลติณสูลานนท์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานให้เมื่อวันที่14 มิถุนายน2462 โดยพล.อ.เปณมเป็นบุตรชายคนรองสุดท้องจากจำนวน8 คนของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม(บึ้งติณสูลานนท์) ต้นตระกูลติณสูลานนท์กับนางวินิจทัณฑกรรม(ออดติณสูลานนท์)
พล.อ.เปรมสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธจังหวัดสงขลาสงขลาหมายเลขประจำตัว167 และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเมื่อปี2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบกรุ่นที่5 สังกัดเหล่าทหารม้าจากนั้นได้เข้ารับราชการทหารและร่วมรบในสงครามอินโดจีนรวมทั้งสงครามโลกครั้งที่สอง
พล.อ.เปรมเคยดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่2 ผู้บัญชาการทหารบกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่16 ของไทยและดำรงตำแหน่ง3 วาระระหว่างปี2523 – 2531 โดยหลังพ้นจากตำแหน่งนายกฯได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้เป็นองคมนตรีเมื่อวันที่23 ส.ค. 2531 ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรีเมื่อวันที่4 ก.ย. 2541
ในช่วงที่พล.อ.เปรมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้าเมื่อปีพ.ศ.2511 ท่านมักเรียกแทนตัวเองต่อผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าว่า“ป๋า” และเรียกผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าว่า“ลูก” จนเป็นที่มาของคำว่าป๋าหรือป๋าเปรมขณะที่คนสนิทของพล.อ.เปรมมักถูกเรียกว่าลูกป๋า.