จากกรณี นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่ ถูกตำรวจกองปราบปราม ส่งฟ้องในฐานความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 โดยศาลไม่ให้ประกันตัว ก่อนนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิง นอกจากนี้ยังพบว่า นางมณตา มีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดอีกหลายคดี รวมทั้งพฤติกรรมเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบหญิงชาวเขา3 ราย ใน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างของ นางมณตา ที่ได้เข้าให้ข้อมูลกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศ (ดีเอสไอ) ว่า นางมณตา มีพฤติกรรมค้ามนุษย์ นั้น ว่าทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ได้กำชับให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว โดยเฉพาะประเด็นการตรวจสอบว่า นางมณตา มีพฤติกรรมเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ทางชุดสืบสวน กก.4บก.ปคม. ร่วมกับชุดสืบสวน บก.ป..ลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจสอบข้อมูลเด็กชาวเขาทั้ง 3 ราย และให้ประสานเพื่อขอข้อมูลเบื้องต้นกับศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมกับทำการสอบปากคำผู้เสียหายในประเด็นพฤติการณ์ของ นางมณตา อย่างละเอียด และให้รายงานความคืบหน้าเป็นระยะ อย่างไรก็ตามขณะนี้พบการกระทำความผิดในเรื่องของ พ.ร.บ.แรงงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้เสียหายว่า ขณะที่เป็นลูกจ้างนั้น นางมณตา ได้มีการข่มขู่หรือบังคับอะไรหรือไม่ รวมทั้งหากพบการกระทำความผิดเข้าข่ายการค้ามนุษย์ก็จะดำเนินคดีทันทีทั้งนี้ มีรายงานว่าสำหรับคดีของ นางมณตา ที่ถูกดำเนินคดีใน มาตรา 112 นั้น มีพยานปากสำคัญ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมมอบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมของ นางมณตา ว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน โดยมักแอบอ้างว่ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้านายในสถาบันเบื้องสูง จึงทำให้ได้รับแต่งตั้งเป็น “คุณหญิง” และยังมีการเปิดบริษัทย่านประชาชื่น ทำธุรกิจเกี่ยวกับการทำหวย มักจะอวดอุตริว่ามีญาณวิเศษ สามารถที่จะให้เลขเด็ดได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการขยายผล อย่างไรก็ดี นอกจากพฤติกรรมแอบอ้างสถาบันแล้วนั้น ยังพบหลักฐานซึ่งเป็นภาพถ่ายหญิงไก่กับบุคคลสำคัญอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นายตำรวจ หรือทหารด้าน นายกมลศักดิ์ ศรีประเสริฐ อายุ39 ปี ทีมทนายของ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนาพระ มหากษัตริย์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากคนสนิทของเศรษฐิณีคนหนึ่งใน อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า เมื่อเดือน ธ.ค. 2546 นางมณตา พร้อมสามีที่เป็นตำรวจได้เดินทางมาหาที่บ้าน เพื่อติดต่อขอซื้อที่ดินจำนวน 8 ไร่ รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท สำหรับนำไปสร้างคอนโด ซึ่งหลังจากไปมาหาสู่กัน 3-4 ครั้ง กระทั่งครั้งสุดท้ายนางมณตา ได้มารับเศรษฐิณีคนดังกล่าวไปจากบ้าน โดยบอกกับญาติๆว่าจะไปจัดการเรื่องที่ดิน ก่อนจะหายสาปสูญไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอตัว ในส่วนของ นายโก้ อดีตคนขับรถคนสนิทของ นางมณตา นั้น ทางทีมทนายทราบมาว่า นายโก้ ถูกตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบมานำตัวไปจากห้องพักของ นางมณตา ภายในคอนโดบ้านประชานิเวศน์ โดยระบุว่า นายโก้เกี่ยวพันกับยาเสพติด อย่างไรก็ตามทาง ทีมทนายได้ตรวจสอบประวัติการถูกดำเนินคดีของ นายโก้ ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบันว่าถูกจองจำที่เรือนจำใดนั้น ก็ไม่พบข้อมูลว่าถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด ประกอบกับยังพบว่าพื้นเพเดิม นายโก้ เป็นคนจ.ลพบุรี ก่อนที่จะมาทำงานให้ นางมณตา และนางมณตา ได้ใส่ชื่อนายโก้มาอยู่ในทะเบียนบ้านของตนเองที่คอนโดบ้านประชานิเวศน์ จนเมื่อนายโก้หายตัวไป ชื่อก็ถูกย้ายออกจากทะเบียนบ้านเช่นเดียวกัน ขณะนี้ นายโก้ ยังไม่ถูกระบุให้เป็นบุคคลสาปสูญ เนื่องจากยังไม่ครบกฎเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดว่าต้องหายสาปสูญ 5 ปีเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามในวันที่ิ 11 ก.ค.นี้ ญาติของ นายโก้ จะเข้าพบพล.ต.ท.ฐิติราชหนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เพื่อร้องขอให้ช่วยติดตามคดีต่อไป.