นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต และนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อของพรรค ได้ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงให้กับนาย”สกลชัย อิสระเสนารักษ์” ผู้สมัครหมายเลข 11 พรรคประชาธิปัตย์ จ.นครนายก ที่ บริเวณลานสวนหลวง ร.9 เทศบาลเมืองนครนายก ท่ามกลางประชาชนกว่า 2,000 คน
โดยนายจุรินทร์ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งที่นครนายกครั้งนี้ การพิจารณาว่าจะลงคะแนนให้ใครนั้น ขอให้ดูที่คนกับดูที่พรรค โดยขอให้เปรียบเทียบตัวผู้สมัครว่าใครมีศักยภาพ สามารถเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชนในพื้นที่และมีศักยภาพนำปัญหาประชาชนไปพูดในสภาได้ดีกว่ากัน และให้ดูที่พรรคด้วยว่าพรรคการเมืองพรรคนั้นเมื่อมีอำนาจรัฐแล้วจะต้องไม่พาประเทศกลับไปถูกยึดอำนาจอีก เพราะสุดท้ายกรรมจะตกกับประชาชนเพราะคณะยึดอำนาจทำได้แค่ความสงบแต่ประชาชนกระเป๋าแฟบ
สำหรับกรณีที่พรรคไทยรักษาชาติ
ถูกยุบนั้นตนไม่ขอวิจารณ์ และจะเกิดเหตุใดๆแทรกซ้อนขึ้นมาหรือไม่หรือคะแนนของพรรค ทษช.จะสามารถถ่ายเทไปให้พรรคใดได้หรือไม่ ตนก็ไม่อาจทราบได้ เพียงแต่ภายใต้สถานการณ์การเมืองหลังการยุบพรรค ทษช.นั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังจะเดินหน้าทำพรรคให้เป็นทางเลือกหลักสำหรับประชาชนในการเลือกตั้งต่อไป โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ประชาธิปไตยเดินหน้าและแก้ปัญหาประชาชนได้ โดยไม่สร้างเงื่อนไขพาประเทศกลับไปสู่วังวนการเมืองที่มีการยึดอำนาจและขัดแย้งอีก ด้วยจุดยืน 3 ข้อคือ
1.ยึดหลักการประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นั่นคือใครรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ก็เป็นรัฐบาล ใครเป็นเสียงข้างน้อย ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน
2.ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยสุจริต บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์ เพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไขเอ่ยอ้างนำไปสู่การยึดอำนาจอีกในอนาคต และ
3.จะเดินหน้าแก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ คือปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ด้วยนโยบาย แก้จน สร้างคน สร้างชาติ นายจุรินทร์กล่าว
/ดำรงค์ ชื่นจินดารายงาน