ชมรมสื่อมวลชนจังหวัดสระบุรี จัดกิจกรรมเนื่องในวันนักข่าว 2562 โดยจัดเสวนาและอบรมให้ความรู้นักเรียน “รู้ให้ทัน เล่นให้เป็น สื่อโซเชี่ยล” ให้กับนักเรียนโรงเรียนไห้วิมลวิทยานุกูล เนื่องด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนาอย่างก้าวล้ำ แต่สื่อสังคมออนไลน์กลับส่งอิทธิพลลบต่อชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ของคนในสังคมอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นประเด็นและเป็นประสบทางสังคม เนื่องจากมีความรวดเร็ว กระจายเผยแพร่อย่างไร้ทิศทาง แม้จะมีหน่วยงานภาครัฐกำกับและควบคุมก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเยาวชน ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ และวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จึงได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีวิทยากรกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี และโรงเรียนเสาไห้วิมลวิทยานุกูล มาร่วมเสวนาบรรยายให้ความรู้
นายวิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ ประธานชมรมสื่อมวลชนจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า การจัดโครงการเสวนาและอบรมให้ความรู้นักเรียน “รู้ให้ทัน เล่นให้เป็น สื่อโซเชี่ยล” มีความคาดหวังให้เด็กและเยาวชน นักเรียนโรงเรียนเสาไห้วิมลวิทยานุกูล รู้ถึงผลเสีย ผลกระทบ และผลดีหากใช้สื่อโซเชี่ยลไปในทางที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์ นักเรียนมีทักษะความรู้ความเข้าใจในกระบวนการใช้สื่อโซเชี่ยลอย่างสร้างสรรค์ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ร่วมกันของภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา และสื่อมวลชน ในมุมมองต่าง ๆ สื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้กลายเป็นปัญหาที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามจำนวนของเยาวชนที่เข้ามาเป็นสมาชิก บางครั้งเยาวชนเองก็ตกอยู่ในสภาวะผู้ได้รับผลกระทบเสียหายเสียเอง บางกรณีเยาวชนก็เป็นผู้กระทำ เป็นผู้ร่วมกระทำ และเป็นผู้ส่งเสริมการกระทำ โดยขาดความตรึกตรองข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ซึ่งยิ่งข้อมูลส่วนตัวไปแสดงอยู่บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยให้ผู้ร้ายสามารถลอกเลียนเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของเราเพื่อไปแอบอ้างในการก่ออาชญากรรมได้ง่ายขึ้น ดังที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง หรือการถูกหลอกลวงได้ง่าย
กิจกรรมวันนี้ชมรมสื่อมวลชนจังหวัดสระบุรี จัดขึ้น สืบเนื่องจากปัจจุบันในสื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) เป็นบริการออนไลน์ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ไม่ว่าจะเป็น Facebook / Line / instagram (IG) หรือเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์อื่นๆ ทำให้มีจำนวนสมาชิกของเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาล โดยเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Facebook ในขณะที่เทคโนโลยีการสื่อสารได้รับการพัฒนาอย่างก้าวล้ำ สื่อสังคมออนไลน์กลับส่งอิทธิพลลบต่อชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ของคนในสังคมอย่างชัดเจน ขณะที่สื่อมวลชนที่ทำหน้าที่สื่อหลักอย่างเช่นหนังสือพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ เคเบิลทีวี เองก็ได้รับผลกระทบ เช่นกัน ในการปฏิบัติหน้าที่หรือการนำเสนอข่าว เมื่อสถานการณ์หรือเหตุการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นกับเด็ก เยาวชน และสตรี หรือเหตุการณ์ที่อ่อนไหวต่ออารมณ์ความรู้สึกของสังคม หลายเหตุการณ์สื่อมวลชนเอง ถูกกล่าวหาว่าไม่ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ ถูกกล่าวหาว่าเอนเอียง มีความล่าช้าในการรายงานข่าว ทั้งนี้สังคมได้รับข้อมูลข่าวสารจากสี่อสังคมออนไลน์ โซเชี่ยล เป็นเป็นข้อมูลหลักด้านเดียว ที่มีการแชร์อย่างรวดเร็วและไร้ทิศทาง และบางเหตุการณ์ขาดความถูกต้องและเหตุผลรองรับ ซึ่งสื่อหลักไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
แต่อย่างไรก็ตามสื่อสังคมออนไลน์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) หากมีการนำมาใช้อย่างถูกต้องก็จะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชน ทั้งด้านการค้นคว้า ศึกษา การสร้างปฏิสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว การสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับตัวเองหรือช่วยเหลือครอบครัว หรือเป็นช่องทางสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพอีกช่องทางหนึ่ง
/ดำรงค์ชื่นจินดาผู้สื่อข่าวสระบุรีรายงาน
