เกาหลีเหนือออกถ้อยแถลงระบุมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายที่ คิม จองอึน ผู้นำของพวกเขา เท่ากับเป็นการ “ประกาศสงคราม” และกร้าวจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างหนักหน่วง
ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเปียงยางที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) ระบุว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ เข้าองค์ประกอบแห่งพฤติกรรมอันเป็นปกปักษ์เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นการประกาศเปิดสงคราม
สหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (6 ก.ค.) ใส่ชื่อนายคิม จองอึน เข้าไปในบัญชีดำคว่ำบาตร โดยระบุว่าผู้นำเกาหลีเหนือรายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงต่างๆ นานาในประเทศของเขา
อดัม ซูบิน รักษาการปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายการก่อการร้ายและข่าวกรองการเงินของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ (6 ก.ค.) ว่า ภายใต้คิม จองอึน เกาหลีเหนือยังคงข่มเหงประชาชนนับล้านอย่างโหดร้าย ซึ่งรวมถึงการวิสามัญฆาตกรรม การบังคับใช้แรงงาน และการทรมานในค่ายนักโทษ รวมทั้งการลิดรอนเสรีภาพสื่อ นักวิชาการ และกิจกรรมทางวัฒนธรรม ที่รวมถึงการคุมขังผู้ถูกกล่าวหาดูภาพยนตร์ต่างประเทศ
“คิม ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือต้องรับผิดชอบการล่วงละเมิดเหล่านี้ในฐานะผู้บังคับบัญชากระทรวงความมั่นคงของรัฐและกระทรวงความปลอดภัยของประชาชน” กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลง
เจ้าหน้าที่ในวอชิงตันเผยว่า กระทรวงความมั่นคงของรัฐกักขังนักโทษถึง 80,000-120,000 คนในค่ายนักโทษการเมือง ที่ซึ่งการทรมาน การประหารชีวิต การล่วงละเมิดทางเพศ การอดอาหาร และแรงงานทาส เป็นเรื่องปกติ
ส่วนกระทรวงความปลอดภัยของประชาชนบริหารเครือข่ายสถานีตำรวจ ศูนย์กักกัน และค่ายแรงงาน ที่ผู้ต้องสงสัยที่อยู่ภายใต้การสอบสวนจะถูกดูหมิ่น ข่มขู่ และทรมานอย่างเป็นระบบ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ระบุตัวผู้นำเกาหลีเหนือในฐานะเป้าหมายโดยตรงของมาตรการคว่ำบาตร ฐานล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ
ในปฏิกิริยาตอบสนองแรกต่อมาตรการคว่ำบาตร เปียงยางเรียกร้องให้ถอนชื่อออกจากบัญชีในทันที และเตือนว่าเกาหลีเหนือจะตัดช่องทางด้านการทูตในทันทีหากว่าอเมริกาไม่ยอมดำเนินการตามนั้น
“สหรัฐฯ บังอาจมากที่ท้าทายผู้มีอำนาจสูงสุดของเรา พฤติกรรมที่เป็นปรปักษ์ขั้นเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันเลยเถิดเกินกว่าจะเป็นเพียงแค่การเผชิญหน้าในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนแล้ว นี่มันเข้าองค์ประกอบของการประกาศเปิดสงคราม” ถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านทางเคซีเอ็นเอระบุ
กระทรวงการต่างประเทศโสมแดงระบุในถ้อยแถลงต่อว่า “ตอนนี้ด้วยที่สหรัฐฯ ได้ประกาศสงครามกับเรา ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จะถูกจัดการอย่างทันทีทันใด ในความสอดคล้องกับกฎหมายยามศึกสงครามของเกาหลีเหนือ เปียงยางจะตอบโต้อย่างหนักหน่วงที่สุด”
นอกจากคิมแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่อเมริกาขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ อีก 10 คนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยของประชาชน ผู้อำนวยการสำนักงานในสังกัดกระทรวงความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งกระทรวงและกรมอีก 5 แห่ง
ในปฏิกิริยาตอบสนองคำเตือนในวันศุกร์ (8 ก.ค.) ของเกาหลีเหนือ สหรัฐฯ เรียกร้องเปียงยางยับยั้งออกคำแถลงและแสดงพฤติกรรมใดๆ ที่จะเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค “เป็นอีกครั้งที่เราขอเรียกร้องเกาหลีเหนือ ยับยั้งพฤติกรรมและโวหารใดๆ ที่รังแต่จะเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค” จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาแถลงข่าวสั้นๆ
เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงแสดงความยินดีกับความเคลื่อนไหวออกมาตรการคว่ำบาตรของวอชิงตัน เนื่องจากมองว่าจะกระตุ้นให้นานาชาติตระหนักถึงระดับความรุนแรงของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ และร่วมกันคิดหามาตรการแก้ปัญหา