การไฟฟ้านครหลวงตั้งเป้าหมายจะดำเนินการนำระบบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารโทรคมนาคมลงสู่ใต้ดินให้ได้ภายใน 5 ปี ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มดำเนินการบนถนนราชวิถี จากแยกตึกชัย มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ 15 สิงหาคมนี้
วันนี้ (7 ก.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ปิดช่องการจราจรบนถนนราชวิถี 1 ช่องทาง จากแยกตึกชัยมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อขุดถนนวางแนวท่อพักสายไฟ ก่อนจะนำระบบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารโทรคมนาคม จากระบบสายอากาศเป็นระบบสายใต้ดิน
สำหรับโครงการนำร่องนี้ กฟน.เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 15 สิงหาคม โดยวันจันทร์ถึงศุกร์ จะปิดช่องทางจราจร 1 ช่อง ระหว่างเวลา 22.00 – 05.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และปิดอีกครั้งในช่วงเวลา 09.00 – 15.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ กฟน. จะปิดพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เสร็จได้ทันเวลา
สำหรับแผนงานการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน เบื้องต้น กฟน.กำหนดแผนไว้ 39 เส้นทาง ระยะทาง 127 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ คาดว่าแผนจะแล้วเสร็จในกลางปี 2561 จากนั้น จะเข้าสู่ขั้นตอนการรื้อย้าย ซึ่งล่าสุด คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการ 5 ปี ใช้งบประมาณกว่า 48,000 ล้านบาท
สำหรับสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร หากสังเกตจากเสาไฟฟ้าในปัจจุบัน จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือระดับบนสุด เป็นสายไฟฟ้าแรงสูง, รองลงมา เป็นสายไฟฟ้าแรงต่ำ และกลุ่มล่างสุด เป็นสารสื่อสารและโทรคมนาคม ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกันเกือบ 20 บริษัท
โครงการย้ายสายไฟฟ้าลงดินทั้งระบบ พบว่าปัจจุบันมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ช่วงเวลาในการทำงาน ที่ดำเนินการได้ในช่วงหลัง 22.00 – 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และจะทำได้เพียงครั้งละ 150 เมตร ขณะที่บางเส้นทาง แม้จะมีการย้ายสายไฟฟ้าลงดินแล้ว แต่ยังพบว่าไม่สามารถรื้อถอนเสาไฟฟ้าออกได้ เนื่องจากยังมีสายสื่อสารอื่นๆ พ่วงอยู่กับเสาไฟ
ที่มา TPBS