จากกรณีที่ครอบครัวชาวบ้านใน อ.นาทวี จ.สงขลา รวม 4 ชีวิต ร่วมกันเดินเท้าไปสวดมนต์ถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ โรงพยาบาลศิริราช ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม 2559 เฟซบุ๊ก กลุ่ม แจ้งเหตุชุมพร ได้รายงานความคืบหน้าว่า ตอนนี้ครอบครัวของลุงไสว ได้เดินเท้าผ่านเข้าจังหวัดชุมพรเรียบร้อยแล้ว
ลุงไสว หรือนายไสว ไชยพันธ์ อายุ 53 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 136/1 หมู่1ต.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาประกอบอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา รวม4 ชีวิต ทั้ง นางปราณี แก้วมณี อายุ 44 ปี ภรรยา นายประเมษ แก้วมณี อายุ 16 ปี ลูกชาย และด.ช.สาคร ไชยพันธ์ ลูกชายซึ่งมีอายุเพียงแค่ 9 เดือน ได้ร่วมกันเดินเท้าจากอ.นาทวี เพื่อไปสวดมนต์ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ให้ทุกพระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ววัน รวมทั้งสวดมนต์ถวายแด่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
โดยเริ่มออกเดินทางจากอ.นาทวีตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมาโดยใช้เส้นทางถนนสายเอเชียตั้งเป้าหมายจะเดินเท้าให้ถึงโรงพยาบาลศิริราชในเวลา 1 เดือน ซึ่งการเดินเท้าของทั้ง 4 ชีวิตมีเพียงรถเข็น 2 ล้อที่ใช้แรงคนช่วยกันเดินถ่อกันไปและต่อโครงหลังคาเพื่อคุ้มแดดคุ้มฝนเก็บสัมภาระและเสบียงระหว่างการเดินทาง และข้างบนหลังคาประดับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมธงตราสัญลักษณ์และธงชาติไทยเอาไว้ด้วยเพื่อเป็นกำลังใจให้เดินไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยตลอดการเดินทางให้นั่งอยู่ภายในรถเข็น และระหว่างการเดินทางจะใช้ศาลาริมทาง วัด หรือปั้มน้ำมัน เป็นที่พักชั่วคราว
นายไสว ไชยพันธ์ บอกถึงแรงบันดาลใจภารกิจที่สำคัญที่สุดในชีวิตว่า ก่อนหน้านี้ตนล้มป่วยด้วยโรคหอบหืด โรคไวรัสตับอักเสบมา 10 ปี และตั้งจิตอธิษฐานว่าหากหายเป็นปรกติและลูก 4คนเรียนจบปริญญาตรี ก็จะพาครอบครัวเดินเท้าไปสวดมนต์ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทั่งหายป่วยและร่างกายกลับมาสมบูรณ์รวมทั้งลูก 3 คนเรียนจบทั้งหมดส่วนอีกคนจบ ม.6 แต่ไม่ได้เรียนต่อเพราะสงสารครอบครัว จึงเริ่มออกเดินเท้าตามที่ตั้งใจ และความตั้งใจอีกอย่างในสิ่งที่ครอบครัวร่วมกันทำในครั้งนี้คืออยากให้เกิดความรักความสามัคคีเกิดขึ้นในใจของคนไทยและให้ความแตกแยกหายไป
ทั้งนี้ระหว่างการเดินทางของทั้ง 4 ชีวิต ได้มีประชาชนที่พบเห็นและทราบถึงเป้าหมายของการเดินทาง ต่างออกมาให้กำลังใจบางคนได้มอบเงินและอาหารเพื่อใช้เป็นเสบียงตลอดการเดินทางและขอให้ภารกิจในครั้งนี้สำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้.