วันนี้ 31 พ.ค.ศาลแพ่งรัชดาอ่านคำพิพากษาความแพ่ง คดีระหว่างนางสายสุดา ศรีเอื้องดอย โจทก์ กับ กระทรวงกลาโหม จำเลยที่ 1 กองทัพบก จำเลยที่ 2 และ สำนักนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 3 ในข้อหาละเมิด และเรียกค่าเสียหายจากกรณีที่ พลทหารสมชาย ศรีเอื้องดอย เสียชีวิตระหว่างประจำการที่ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ คดีนี้ศาลได้พิพากษายกฟ้องโดยชี้ว่าคำชี้แจงของเจ้าหน้าแพทย์ฝ่ายจำเลยมีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตจากปอดอักเสบเนื่องจากไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่การถูกซ้อม
พลทหารสมชาย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2557 ระหว่างประจำการที่ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านั้น ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 28 ม.ค. จากอาการไอ เจ็บคอ เหนื่อย หอบ เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลกาวิละ ตรวจสอบอาการแล้ว เห็นว่ามีอาการหนัก เข้าใจว่ามีอาการติดเชื้อ จึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเทพปัญญา จังหวัดเชียงใหม่ แต่พลทหารสมชายเสียชีวิตในวันต่อมา
ทั้งนี้ ญาติของพลทหารสมชายติดใจสงสัยในการตาย โดยระบุว่าระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2557 ผู้ตาย ได้แจ้งกับญาติทางโทรศัพท์ว่าถูกซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย ลงโทษด้วยการใช้ปี๊บคลุมศีรษะ ใช้อาวุธตีที่ศีรษะ แผ่นหลัง หน้าอก จำนวน 20 ครั้ง แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ผลการชันสูตรพลิกศพ ระบุว่า ร่างกายไม่มีบาดแผล สาเหตุการตาย ติดเชื้อไข้หวัดนก ปอดอักเสบ และระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลเทพปัญญา จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มีคนไข้ติดเชื้อไข้หวัดจำนวน 20 ราย แต่มีพลทหารสมชายฯ เสียชีวิตเพียงผู้เดียว
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2558 นางสายสุดา มารดา ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารผู้กระทำละเมิดต่อศาลแพ่ง โดยเรียกค่าเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิต ร่างกายหรือจิตใจ เป็นเงิน 5,000,000 บาท ค่าปลงศพ เป็นเงิน 300,000 บาท โดยทางจำเลยได้จ่ายไปแล้วเป็นเงิน 40,000 บาท และค่าขาดไร้อุปการะและค่าขาดแรงงานในครอบครัว โดยนางสายสุดา มีพลทหารสมชายเพียงผู้เดียวที่ทำมาหาเลี้ยงครอบครัว โดยคิดเป็นเงินเดือนละ 30,000 บาทต่อเดือนจนนางสายสุดาอายุถึง 95 ปี เป็นเวลา 35 ปี คิดเป็นเงิน 12,600,000 บาท
วันนี้ ศาลชี้ว่าการตายของพลทหารสมชายเป็นผลโดยตรงจากอาการปอดอักเสบจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ พยานฝ่ายจำเลยเป็นแพทย์ผู้ให้การรักษาจึงมีน้ำหนักที่น่ารับฟัง ขณะที่พยานฝ่ายโจทก์เป็นเพียงพยานบอกเล่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าพลทหารสมชายเสียชีวิตจากอาการปอดอักเสบจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายอันเป็นการละเมิดแต่อย่างใด พร้อมทั้งพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารได้แสดงให้เห็นว่าได้ใช้ความระมัดระวังต่อพลทหารสมชายซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเพียงพอแล้วจึงไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยละเว้นอันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงแต่อย่างใด จำเลยทั้ง 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ กรณีจึงไม่ต้องวินิจฉัยในประการต่อไปว่าค่าเสียหายมีเพียงใด พิพากษายกฟ้อง