ย่างเข้าสู่วันที่ 4 แล้วสำหรับช้างป่าอ่างฤไนที่หลงฝูงเข้ามาหากินในพื้นที่ชุมชนเมืองช่วง
บ่ายวานนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการผลักดันกลับคืนสู่ป่าแต่ไม่สามารถผลักดันกลับได้เนื่องจากมืดก่อน และได้จัดชุดเฝ้าระวังช้าง3 ตัวนี้ตลอดคืนกระทั่งรุ่งสางนายธนกฤษ บุญพรมอ่อน
เลขาสภา อบต.ย่านรีนายเด่น วงษ์มาก ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ย่านรีได้ออกดูรอยช้างต่อหลังจากหลังเที่ยงคืนไม่ได้เฝ้าระวัง กระทั่งรุ่งเช้ามี จ.อ.ธนภัทรย้อยดา แจ้งว่าช้างฝูง
ดังกล่าวมาหากินกล้วยข้างบ้านตนเมื่อค่อนสว่างที่ผ่านมา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้าน จ.อ.
ธนภัทร พบว่าป่ากล้วยที่ปลูกไว้ติดชายคาบ้านถูกช้างป่ากัดกินเหยียบย่ำเสียหายหมด
ตนรู้และได้ยินเสียงโครมครามๆข้างบ้านต่อมาเสียงหักต้นกล้วยนึกถึงช้างที่มาในหมู่บ้านเมื่อช่วงบ่ายคงมากินกล้วยที่นี่มองฝ่าความมืดออกไปเห็นตัวใหญ่ๆกัดกินต้นกล้วยอย่างสบายใจตนได้แต่ยืนดูอยู่ราวครึ่งชั่วโมง จากนั้นช้างได้พากันเดินจากไป ต่อมาได้รับจากชาวบ้านพบเห็นร่องรอยช้างที่มาเดินย่ำแคนตาลูบในสวนตรงข้าม รพ.กบินทร์บุรี เจ้า
หน้าที่ป่าไม้จึงลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน ที่สองแควรีสอร์ท ต.กบินทร์
นางสุพิน เสนานอก กล่าวว่าช่วงตีห้าที่ผ่านมาได้ยินเสียงดังไปเดินย่ำหลังกำแพงบ้านรุ่ง
สางออกมาดูพบมีรอยช้างเดินย่ำเลาะชายป่าออกไปด้านหลัง นายแต่ มั่นคง พ่อค้าขาย
ไอครีม ได้กล่าวว่าช่วงตีห้ากว่าคนขี่มอเตอร์ไซค์ำว่งข้างออกไปรับไอสครีมหัวใจแทบวาย
เมื่อขี่รถมาตามทางเห็นช้างตัวใหญ่สองตัวพากันเดินมาตามทางซึ่งเป็นทางลูกรังแคบๆเมื่อเข้าไปไกล้ช้างสองตัวได้หลีกทางให้ไม้ได้คิดทำร้ายตนเลยสักนิด ตนยังคิดในใจว่าถ้าช้างทำร้ายตน ตนต้องตายอย่างเดียวเพราะทางแคบๆไม่สามารถหลบไปทางไหนได้เลยเท่าที่เห็นจากแสงไฟหน้ารถจะเห็นได้ว่าช้างเห็นตนยังพากันหลบทางให้ จากนั้นตนก็ค่อยๆขับรถออกไปยังคิดไม่ถึงด้วยซ้ำไปว่าในชุมชนลึกๆร้อยวันพันปีไม่เคยมีช้างเข้า
มาในหมู่บ้าน เพิ่งเห็นครั้งแรกในชีวิต เจ้าหน้าที่ป่าไม้อ่างฤไนและทุ่งโพธิ ระดมออก
ค้นหาแต่ยังไม่ตัวช้างที่หลบอยู่ในป่าแต่อย่างใด…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี/รายงาน…