เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่าจากกรณีการทุจริตโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและป่าไม้ในพื้นที่อนุรักษ์เพื่อลดผลกระทบจากภาวะวิกฤติโลกร้อน หรือฝ่ายแม้ว มูลค่า 770 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แพร่ ตาก พิษณุโลก โดยโครงการดังกล่าวดำเนินการตั้งแต่ปี 2551 ปัจจุบันใกล้จะครบรอบ 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) สรุปผลการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริต ซึ่งปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แต่กลับพบว่าข้าราชการบางคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็นถึงรองอธิบดี ในกระทรวงทรัพย์ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นตนจึงเตรียมจะยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. และพล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช.ที่รับผิดชอบคดีดังกล่าว เพื่อติดตามความคืบหน้า นอกจากนั้นจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดนักการเมืองและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตกรณีดังกล่าว เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน นอกจากนั้นหากในปี 2562 ซึ่งจะครบรอบ 10 ปีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ ดีเอสไอ ได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ หากการตรวจสอบของดีเอสไอยังไม่มีความคืบหน้า ตนก็จะไปจัดนิทรรศการทุจริตฝายแม้วที่ด้านหน้าสำนักงานดีเอสไอให้ประชาชนได้รับรู้
“การที่พรรคพลังประชารัฐตั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นประธานคณะกรรมการหาเสียงของพรรคนั้น อยากถามว่านายสมศักดิ์เป็นอะไรกับผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตฝายแม้ว และการที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแต่งตั้งนายสมศักดิ์ในตำแหน่งดังกล่าวนั้นจะส่งผลกระทบกับการตรวจสอบคดีนี้หรือไม่ ผมจึงสงสัยพฤติกรรมของพรรคพลังประชารัฐที่อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ค้ำชูของ คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์”นายวัชระกล่าว
////